“KAYAKI” เปิดสาขาใหม่ ณ Central Embassy นำเสนอมื้ออาหารสุดพิเศษผ่านศิลปะการปิ้งย่างเนื้อปลาระดับพรีเมียม
หลังจากประสบความสำเร็จอย่างงดงามกับสาขาแรกที่สุขุมวิท 49 ซึ่งเปิดเมื่อกลางปี 2568 และได้รับเสียงตอบรับอย่างล้นหลาม จองคิวแน่นทุกวันจนต้องรอข้ามเดือน KAYAKI (คายากิ) ร้านปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น โดยสามผู้บริหาร คุณเบ๊นซ์-ปณิธาน, คุณโบ๊ท-ปณิธิ และคุณเพลน-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ จึงขยับขยายความสำเร็จสู่ สาขาที่สอง ณ ชั้น 5 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เอ็มบาสซี เพื่อให้คนเมืองได้สัมผัสคอนเซ็ปต์อาหารญี่ปุ่นที่ทั้ง “เรียบง่ายแต่ลึกซึ้ง” ในแบบฉบับ YAKIZAKANA (YAKI = ย่าง, ZAKANA = ปลา) ผ่านวัตถุดิบระดับพรีเมียมและเทคนิคการย่างที่ประณีตทุกองศา
ในประเทศญี่ปุ่น “YAKIZAKANA” ไม่ใช่เพียงอาหารบ้าน ๆ แต่คือหนึ่งในรากวัฒนธรรมการกินที่สืบทอดมายาวนาน ความเรียบง่ายของการปรุงแค่เกลือหรือหมักเบา ๆ สะท้อนปรัชญาอาหารญี่ปุ่นที่เน้นเคารพวัตถุดิบ และเป็นศิลปะแห่งความเรียบง่ายที่ซ่อนความลุ่มลึกไว้ในทุกคำ เมื่อย่างด้วยเทคนิค “Medium Rare” เนื้อจะชุ่ม ฉ่ำ และหนังกรอบ KAYAKI ได้หยิบแนวคิดนี้นำมาถ่ายทอดให้คนไทยได้สัมผัสผ่านประสบการณ์ใหม่ของ “ปิ้งย่างปลาและซีฟู้ด” เลือกเสิร์ฟแบบ “พอดีคำ” คล้ายร้าน Yakiniku ที่ย่างเนื้อวัว แต่เปลี่ยนวัตถุดิบเป็นปลาเกรดซาซิมิระดับพรีเมียมส่งตรงจากญี่ปุ่น
คุณเพลน-ปวิตรา กอบกุลสุวรรณ กล่าวว่า “เราอยากจะเชิญชวนทุกท่านให้มาลองสัมผัสประสบการณ์ใหม่ที่ KAYAKI เพราะคอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA ของเรา เป็นการปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดระดับพรีเมียม ซึ่งยังไม่แพร่หลายในประเทศไทย เราตั้งใจนำเสนอวัฒนธรรมการทานปิ้งย่างปลาแบบ YAKIZAKANA ให้เป็นที่รู้จักและเข้าถึงได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยคัดสรรวัตถุดิบชั้นเลิศ เทียบเท่าเกรดโอมากาเสะ ทุกคำที่เรามอบให้ลูกค้าถูกรังสรรค์มาอย่างดีที่สุด นอกจากนี้ การทานปิ้งย่างปลาและซีฟู้ดยังดีต่อสุขภาพอย่างแท้จริง ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรักสุขภาพได้อย่างลงตัว เพราะตัวเราเองก็เลือกทานเมนูเหล่านี้เป็นประจำ”
“กลุ่มลูกค้าหลักของเราคือผู้ที่ใส่ใจสุขภาพ โดยเฉพาะผู้หญิงวัยทำงานที่ชื่นชอบอาหารเพื่อสุขภาพและอาจจะเลี่ยงการทานเนื้อวัว ลูกค้าหลายท่านแวะเวียนมาทานหลังจากการออกกำลังกาย เราจึงอยากจะสานต่อและขยายฐานลูกค้ากลุ่มเดิมที่รักสุขภาพเช่นนี้ เพียงแต่ต้องการให้ทุกท่านสามารถเข้าถึงและใช้บริการ KAYAKI ได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นค่ะ” คุณเพลน-ปวิตรา กล่าว
ร้าน KAYAKI สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ถูกออกแบบในสไตล์ Japanese Modern ที่ผสานความเรียบง่ายและโมเดิร์นได้อย่างลงตัว พื้นที่ร้านโปร่ง โล่ง มองเห็นวิวเมืองจากกระจกด้านนอก เพิ่มโซนเคาน์เตอร์บาร์ถึง 3 จุด เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสบรรยากาศเชฟย่างปลาต่อหน้าในทุกขั้นตอน สาขาใหม่นี้ขยายพื้นที่รองรับเกือบ 50 ที่นั่ง พื้นที่ร้านเปิดโล่ง มองเห็นวิวเมืองชัดเจน และยังเพิ่มโซน Outdoor Terrace สำหรับนั่งชิลล์ในบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะกับมื้อกลางวันและดินเนอร์สุดผ่อนคลาย
เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดสาขาใหม่ KAYAKI เปิดตัว “Tenkai” สุนทรียะแห่งการย่าง 7 คำ เซ็ตเมนูพิเศษที่รวบรวมทั้งเมนูยอดนิยมและเมนูใหม่เฉพาะสาขานี้ไว้อย่างลงตัว ในราคา 1,290 บาท
เริ่มต้นด้วยคำเปิดอย่าง Chutoro Leek ซึ่งเป็นเมนูซิกเนเจอร์ (Signature) ของร้านที่ใครได้ลองก็ต้องติดใจ ประกอบด้วย ชูโทโร่ (เนื้อปลาทูน่าส่วนท้องตอนบน) ซึ่งเป็นเนื้อที่มีไขมันแทรกในระดับปานกลาง (คล้ายเนื้อวัวเกรด A4 – A3) ให้เนื้อสัมผัสนุ่มละมุนลิ้นแต่ยังคงความแน่นของเนื้อปลาไว้มากกว่าโอโทโร่ (ส่วนที่คนนิยมทานมากที่สุด) และนำชูโทโร่มาแทรกด้วยต้นหอมสดเพื่อเพิ่มกลิ่นหอมบางเบาของผัก ตามมาด้วย Hotate หอยเชลล์โฮตาเตะคุณภาพระดับโอมากาเสะ ย่างด้วยไฟจนหอมกรุ่น และราดด้วยซอสสูตรพิเศษของทางร้าน จากนั้นพบกับ Shade of Toro เมนูไฮไลต์ประจำเซ็ตและมีเฉพาะสาขานี้เท่านั้น ซึ่งเป็นการรวมความอร่อยของปลาทูน่า (มากุโระ) ไว้ถึงสามส่วนสำคัญที่นำมาหั่นเต๋า เสียบไม้ และทาด้วยซอสสูตรพิเศษก่อนนำไปย่างอย่างพิถีพิถัน เมื่อย่างเสร็จ เนื้อปลาแต่ละส่วนจะให้เฉดสีที่แตกต่างกันตามระดับไขมันและกลายเป็นสามเฉดสีแห่งความละมุน โดยประกอบด้วย โอโทโร่ (Otoro) ส่วนที่มีไขมันแทรกสูงสุดบริเวณท้องด้านล่าง มอบรสชาติหวานมันเข้มข้น นุ่มละลายในปาก เทียบได้กับเนื้อวัวเกรด A5, ชูโทโร่ (Chutoro) ส่วนที่มีไขมันแทรกปานกลางบริเวณหน้าท้องตอนบน เนื้อนุ่มกำลังดี แต่ยังคงความแน่นของเนื้อปลาไว้มากกว่าโอโทโร่ เป็นส่วนที่ได้รับความนิยมมาก และอากามิ (Akami) ส่วนเนื้อแดงที่ไม่ติดมันจากบริเวณกลางลำตัว มีไขมันน้อยที่สุด ให้เนื้อสัมผัสที่แน่นและนุ่ม เป็นส่วนที่ลีนที่สุดของปลา เทียบได้กับเนื้อวัวส่วนสันใน
นอกจากนี้ยังมี Salmon ปลาแซลมอนเกรดพรีเมียมนำเข้า ที่เปี่ยมด้วยความสดใหม่ นำมาย่างพร้อมกับทาซอสสูตรพิเศษของทางร้าน เพื่อเพิ่มรสชาติที่กลมกล่อมและกลิ่นหอมชวนรับประทาน อีกหนึ่งเมนูไฮไลต์ใหม่คือ Unagi ปลาไหลน้ำจืดย่าง ที่ทาด้วยซอสหวานสูตรพิเศษของทางร้าน ความพิเศษของจานนี้คือเนื้อปลาที่นุ่มละลายในปาก ตัดกับส่วนหนังที่ย่างจนกรอบ (Crispy) และมีความมันเล็กน้อย มอบมิติและอรรถรสในการรับประทานได้อย่างลงตัว เพิ่มความพรีเมียมไปอีกขั้นด้วยการ On-top “Uni” (ไข่หอยเม่น) ในราคาเพียง 250 บาท เติมเต็มรสชาติหอมมันในแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ ที่ยกระดับคำนี้ให้หรูหราและน่าลิ้มลองยิ่งขึ้น ต่อด้วย Aka Ebi กุ้งแดงอาร์เจนตินา ซึ่งเป็นวัตถุดิบคุณภาพที่คัดสรรมาเป็นอย่างดี เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Aka Ebi อยู่ที่เนื้อกุ้งหวานฉ่ำและมีสัมผัสที่หนึบเด้งตามธรรมชาติ ผ่านการย่างในระดับมีเดียมแรร์ เพื่อสร้างสมดุลแห่งรสชาติ โดยทำให้ผิวภายนอกถูกความร้อนเพียงพอ จนเกิดกลิ่นหอมกรุ่น ขณะที่เนื้อด้านในยังคงรักษาความชุ่มฉ่ำและความหวานตามธรรมชาติของกุ้งแดงไว้ได้อย่างครบถ้วน ปิดท้ายมื้ออาหารอย่างลงตัวด้วย Tamago (ไข่หวานญี่ปุ่น) เมนูใหม่ที่นำไข่หวานมาย่างอย่างพิถีพิถันจนได้ความร้อนที่พอเหมาะ ทำให้รสชาติหวานมันอร่อย กลมกล่อม และมีกลิ่นหอมของถ่านอ่อน ๆ สร้างความประทับใจสุดท้ายได้อย่างนุ่มนวล
และเพื่อเติมเต็มมื้ออาหารให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น KAYAKI ขอแนะนำเมนู Lobster Sando แซนวิชล็อบสเตอร์ย่างที่ยังคงความฉ่ำหวานของเนื้อไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ประกบด้วยขนมปังบริยอชโฮมเมดสูตรพิเศษจาก Kay’s Café นับเป็นครั้งแรกที่ KAYAKI นำเมนูล็อบสเตอร์มานำเสนออย่างสร้างสรรค์ โดยเสิร์ฟพร้อมซอสไข่พริกมะนาวสูตรเฉพาะ ที่ช่วยเสริมรสชาติให้โดดเด่นยิ่งขึ้น สามารถสั่ง Lobster Sando เป็นเมนูเพิ่มพิเศษ (Add-on) จากทุกชุด (Set) ในราคาเพียง 390 บาท และสำหรับจานเดี่ยว (A la carte) ในราคา 590 บาท
สามารถมาสัมผัสประสบการณ์คอนเซ็ปต์ YAKIZAKANA ปิ้งย่างเนื้อปลาและซีฟู้ดสุดพรีเมียมได้แล้ววันนี้ที่ร้าน KAYAKI สาขาเซ็นทรัล เอ็มบาสซี ชั้น 5 โดยร้านเปิดให้บริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00 – 22.00 น.
Facebook: Kayaki
Instagram: kayaki.thailand