TOP

หลบพักผ่อนในรีสอร์ตหรูผสานธรรมชาติ “อมันปุรี” ที่ภูเก็ต

เดือนนี้ คุณแป๋ม-ปิยะดา ปุณณกิติเกษม เจ้าของเพจ PPGALLERY ขอพามาพักที่ “Amanpuri” จังหวัดภูเก็ต รีสอร์ตแห่งแรก (Flagship Property) ในเครือ Aman ที่สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 2531

แป๋มได้มีโอกาสไปพักครั้งแรกช่วงโควิดแล้วประทับใจมาก จนต้องพาครอบครัวไปพักด้วยกันอีกครั้งเมื่อเร็ว ๆ นี้ โรงแรมในเครือ Aman แต่ละแห่งจะมีเอกลักษณ์โดดเด่นจากภูมิประเทศหรือที่ตั้งที่น่าจดจำไม่เหมือนใคร ที่สำคัญคือมีความเป็นส่วนตัว สงบ และสร้างจากงานสถาปัตยกรรมที่เรียบง่าย ผสมผสานกับวัฒนธรรมท้องถิ่นได้อย่างสวยงามลงตัว รวมถึงมาตรฐานการบริการที่ดีเหนือความคาดหมาย อาคารทั้งหมดเป็นเหมือนบ้านไม้สักทรงไทยสมัยอยุธยา ออกแบบโดย Ed Tuttle สถาปนิกชื่อดังชาวอเมริกัน ด้วยหลังคากระเบื้องดินเผาสีเทาตัดกับโครงสีแดงของไม้สัก เดินจาก Lobby เข้ามาจะเจอสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยต้นมะพร้าวสูงลิ่วอยู่เป็นระยะ จนกลายเป็นมุม Signature ของ Amanpuri

เดินต่อไปอีกไม่มีก้าว จะเป็นบันไดทอดยาวกว่า 80 ขั้นลงไปถึงชายหาดพันทรี เรียกได้ว่าเป็นหาดส่วนตัวของโรงแรม ในส่วนของที่พักจะแบ่งเป็น 2 โซน คือเรือนที่พักสำหรับแขกทั่วไป (Guest Pavilion) ประมาณ 40 หลัง และวิลล่าที่มีเจ้าของซื้อขาดอีกประมาณ 47 หลัง
มีขนาดใหญ่ที่สุดถึง 9 ห้องนอน บางหลังที่เจ้าของไม่อยู่ก็มีเปิดให้คนมาเช่าพักได้เช่นกัน ภายในห้องพักกว้างขวาง ตกแต่งแบบไทยคลาสสิก วัสดุส่วนใหญ่ทำจากไม้สัก งานไม้สวยมาก มีการบำรุงรักษาเป็นอย่างดี พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟ แอร์ ทีวี นาฬิกาปลุกสามารถควบคุมผ่าน Tablet ได้ทั้งหมด

ส่วน Minibar ที่เป็น Non-Alcohol ก็สามารถหยิบรับประทานได้ตามสบายโดยไม่ต้องจ่ายเงินเพิ่ม ด้านนอกยังมีพื้นที่ระเบียงพร้อมโต๊ะไว้นั่งเล่นหรือรับประทานข้าวได้ บางหลังก็มีสระว่ายน้ำส่วนตัวอีกด้วย ก่อนนอนทุกคืน โรงแรมจะมีของที่ระลึกมาวางไว้เป็น Surprise Gift คืนแรกได้เป็นกระป๋องอะลูมิเนียมสีขาวของ Amanpuri ส่วนคืนต่อมาได้เป็นกบไม้แกะสลัก เคาะแล้วมีเสียง

ที่นี่มีห้องอาหารให้เลือกหลากหลายแบบ เริ่มจาก “Buabok” ร้านอาหารไทย All-day dining และยังเป็นที่สำหรับรับประทานอาหารเช้า หรือถ้ามีเวลาก็สามารถเรียนทำอาหารไทยได้ เมื่อทำเสร็จ อาหารจานนั้นก็จะได้เป็นอาหารกลางวันของเรานั่นเอง แป๋มเรียนทำเมนูอาหารใต้ “หมี่ขาวแกงปูใบชะพลู” ทำง่าย อร่อย แถมยังได้เลือกเด็ดใบชะพลูสด ๆ จากแปลงผักออแกร์นิกของโรงแรมอีกด้วย Nura อีกหนึ่งห้องอาหารที่เปิดให้บริการตลอดทั้งวัน เน้นเมนูเบา ๆ ท่ามกลางบรรยากาศริมทะเล Arva ร้านอาหารอิตาเลียนแบบต้นตำรับ โดยทุกเมนูจะใช้วัตถุดิบท้องถิ่นสดใหม่ผสานกับเทคนิคดั้งเดิมของอิตาลี ไม่ว่าจะเป็นพาสต้าแบบโฮมเมดหรือปลาย่างที่หอมกรุ่น The Beach Terrace ร้านติดชายหาด ที่รวมอาหารนานาชาติไว้ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นอาหารไทย อาหารเมดิเตอร์เรเนียน หรือพิซซ่าอบใหม่จากเตาในบรรยากาศชิล ๆ ริมทะเล ส่วนร้าน Nama ที่เป็นร้านอาหารญี่ปุ่น ช่วงที่ไปมีการปิดปรับปรุงเลยยังไม่ได้มีโอกาสลอง

สำหรับ Signature ที่พลาดไม่ได้อีกอย่างของ Amanpuri คือ Kanom Krok Afternoon Tea มีเตาถ่านมาทำขนมครกให้ชิมสด ๆ พร้อมขนมไทยอีกหลายชนิด บริการฟรีทุกวันช่วง 16.30 – 17.30 น.

มาเที่ยวทะเลทั้งที ต้องแวะมาว่ายน้ำ อาบแดดที่หาดพันทรี (Pansea Beach) หาดส่วนตัวของรีสอร์ตที่เงียบสงบ น้ำทะเลใสสีเขียวอมฟ้า แถมมีกิจกรรมทางน้ำให้เลือกเล่นได้เยอะมาก เช่น จักรยานน้ำ, Seabob, Jetski, Paddle Board ช่วงที่ไปฝนตกเกือบทั้งวัน เลยต้องเปลี่ยนกิจกรรมเป็นเรียนมวยไทย และนั่งสมาธิแทน ช่วงฝนตกก็ได้มานวด Holistic Massage ที่โรงแรมแถมมาให้ จนติดใจ เลยนวด Purifying Massage เพิ่มอีกคอร์ส เป็นการนวดเพื่อกระตุ้นให้สารพิษและของเสียขับออกมาตามท่อต่อมน้ำเหลือง นวดแล้วรู้สึกสดชื่นขึ้นเลยค่ะ

 

ปิดท้ายด้วยการชอปปิง ในตึกใหม่รูปทรงแปลกตา Boutique Pavilion Houses ข้างในเป็นร้านขายสินค้าที่ออกแบบโดยสถาปนิกชาวญี่ปุ่น Kengo Kuma สินค้าทุกชิ้นในร้านล้วนเป็นผลงานที่ทีมคัดสรรมาจากทั่วโลก และหลาย ๆ ชิ้นก็ผลิตขึ้นให้กับ Aman เท่านั้น มีตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ งานฝีมือ ไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ของแต่งบ้าน

 

OUR INFLUENCER

คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม

เจ้าของเพจ PPGALLERY

ในช่องทาง Instagram: @ppgallery

และ Facebook: PPGALLERY

www.ppgallery.net

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด