“Grande Centre Point Prestige Bangkok” นิยามใหม่แห่งความหรูหรา ทันสมัย พักสบาย ใจกลางย่านราชประสงค์
หากเดินทางผ่านไปมาบนย่านราชประสงค์ เส้นถนนราชดำริ ต้องสะดุดตากับอาคารสีทองสูงตระหง่าน โดดเด่นท่ามกลางกลุ่มตึกสูงระฟ้า “แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ” (Grande Centre Point Prestige Bangkok) แลนด์มาร์กแห่งใหม่ หนึ่งในแบรนด์ Grande Centre Point Hotels ลำดับที่ 8 ในไทยที่บริหารโดย LH Mall & Hotel (LHMH) เป็นกลุ่ม Prestige Tier ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะผสานความหรูหราแห่งการพักผ่อนและการท่องเที่ยวอย่างเหนือระดับ และได้รับการออกแบบผสมผสานศิลปะไทยร่วมสมัยเข้ากับสถาปัตยกรรมอาร์ตเดโค (Art Deco) มอบความสะดวกสบายสูงสุดใจกลางมหานคร โรงแรมใหม่ล่าสุดแห่งนี้พร้อมเปิดให้จองห้องพักล่วงหน้าแล้ว โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ ภายในเดือนธันวาคม 2568 เป็นต้นไป
แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ นับเป็นโรงแรมหรูแห่งใหม่บนทำเลทองที่น่าจับตามอง ด้วยความลงตัวของที่ตั้งใจกลางเมือง มอบทั้งวิวพื้นที่สีเขียวของราชกรีฑาสโมสรอันสวยงาม รวมถึงวิวเมืองของกลุ่มตึกอาคารในเส้นสายโมเดิร์นรับกับท้องฟ้าหลากมิติ รายล้อมด้วยแหล่งแฮงเอาต์ย่านราชประสงค์ที่เต็มไปด้วยสีสันทั้ง ศูนย์การค้าชื่อดัง ร้านอาหาร และคาเฟ่มีระดับ พร้อมการเดินทางที่สะดวกสบาย ทั้งโดยรถยนต์ส่วนตัว หรือเลือกเดินทางโดยรถไฟฟ้า BTS ยังสถานีราชดำริ เพียง 3 นาที และสถานีรถไฟฟ้า BTS ชิดลมเพียง 5 นาทีจากโรงแรม ทำให้สามารถท่องเที่ยวไปในย่านต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ได้โดยง่าย
ก้าวแรกเมื่อเข้าสู่โถงต้อนรับ จะได้สัมผัสกับความโอ่อ่าสง่างามของโซนล็อบบี้ การบริการที่เวลคัม และโดดเด่นด้วยเส้นนำสายตาบนเพดานสูงที่ได้แรงบันดาลใจจากประเพณีไทย “กระทงสาย” และแสงไฟที่ส่องประกายระยิบระยับ สู่ภาพที่ได้รับการออกแบบเส้นสายผสมผสานอัตลักษณ์ของความเป็นไทยร่วมสมัย อย่าง เรือสุพรรณหงส์บนแม่น้ำเจ้าพระยา รวมถึงนำไฮไลต์สถานที่สำคัญของกรุงเทพฯ มาถักทอร้อยเรียงเรื่องราวในผืนภาพขนาดใหญ่ บริเวณด้านหลังของเคาเตอร์ต้อนรับส่วนหน้าของโรงแรม และอีกหนึ่งไฮไลต์สัญลักษณ์ความไทย นั่นคือ “ลวดลายตราประจำยาม” ที่ตกแต่งจัดวางในทุกมุมมอง ตั้งแต่โถงลิฟท์ ผนังทางเดิน หรือแม้แต่พรมภายในห้องพัก
ก่อนที่จะผ่อนคลายไปกับสิ่งอำนวยความสะดวกสุดพิเศษ บรรยากาศรอบ ๆ ทำให้เราเพลิดเพลินไปกับดีเทลอันสง่างามการออกแบบในส่วนต่าง ๆ ของโรงแรม ที่นำรูปทรงเรขาคณิตอันทันสมัย เส้นสายโค้งมน พร้อมกระจกบานกว้าง ผสานความหรูหราของวัสดุพรีเมียม อย่าง หินอ่อน และงานไม้ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น อันเป็นลักษณะเด่นของสไตล์อาร์ตเดโค ทำให้มีหลายจุดถ่ายรูปเช็กอินสวยงาม และดีเอ็นเอที่บ่งบอกถึงความพิเศษอีกอย่างของโรงแรมในเครือ Grande Centre Point Hotels เราจะได้รับเหรียญ Token ในจำนวนเหรียญที่ขึ้นอยู่กับแต่ละแพ็กเกจการจองห้องพัก ในระหว่างการเข้าพักสามารถใช้ Token แลกใช้บริการ สแน็ก เครื่องดื่ม หรือของที่ระลีกที่ Prestige Shop ได้ตามจำนวนของ Token ที่โรงแรมกำหนด หรือสามารถเก็บไว้ใช้กับโรงแรมในเครือสาขาอื่นได้ด้วย
ในส่วนของ ห้องพักและห้องสวีท รองรับแขกคนสำคัญมากถึง 509 ห้อง ที่ทุกห้องได้รับการออกแบบตกแต่งอย่างมีเอกลักษณ์ ด้วยโทนสีทองหรูหราผสมผสานโทนสีอบอุ่น อย่าง ครีม ขาว เทา เงิน มอบความรู้สึกผ่อนคลาย ภายใต้การจัดฟังก์ชั่นของห้องพักแบบโปร่งโล่ง ด้วยกระจกบานใสเชื่อมต่อระหว่างห้องน้ำกับห้องนอน สัมผัสความเป็นไทยร่วมสมัยที่เชื่อมโยงดีไซน์จากโถงต้อนรับสู่ทุกห้องพัก บนหัวเตียงนอนเล่าเรื่องราวของกรุงเทพฯ ในยุคไทยรัตนโกสินทร์ ไปจนถึงลวดลายดอกประจำยามในมุมต่าง ๆ ของห้องพัก เบรนด์เข้ากันกับสิ่งอำนวยความสะดวกและเทคโนโลยีล้ำสมัยระดับไฮเอนด์ครบครัน อาทิ สมาร์ท ทีวี, เครื่องชงกาแฟแคปซูล Nespresso, ไดร์เป่าผม Dyson, ชุดผลิตภัณฑ์อาบน้ำจาก LRL, โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ พร้อมสัมผัสประสบการณ์ใหม่กับระบบฝักบัว Grohe ที่สามารถเลือกปรับรูปแบบสายน้ำได้ถึง 4 แบบ มาพร้อมอ่างจากุซซี่ และมินิบาร์ น้ำแร่ น้ำดื่มบริการฟรี
โดยมีห้องพักให้เลือกหลากหลาย ทั้งในแบบวิวเมือง หรือวิวพื้นที่สีเขียวของราชกรีฑาสโมสร เริ่มต้นที่ Prestige Signature ขนาด 45 ตร.ม., Prestige Suite ขนาด 85 ตร.ม. พร้อมพื้นที่นั่งเล่น และโต๊ะทำงานชมวิวเมือง, Prestige Connecting ขนาด 90 ตร.ม. เหมาะสำหรับครอบครัวที่ต้องการพักระยะยาว โดยห้องพัก 2 ห้องเชื่อมถึงกัน สำหรับห้อง Prestige Family Suite ขนาด 130 ตร.ม. ห้องสวีท 2 ห้องนอนกว้างขวาง ออกแบบมาเพื่อความสะดวกสบายของครอบครัวได้ผ่อนคลายร่วมกัน ไปจนถึง Prestige Penthouse เพนต์เฮาส์ส่วนตัวพร้อมวิวพาโนรามา ห้องแต่งตัวสองห้อง ห้องนั่งเล่น ที่มอบความหรูหราด้วยพื้นที่ 195 ตร.ม.
นอกจากนี้โรงแรมยังสร้างสรรค์บริการ Vending Machine & Ice Machine เพื่ออำนวยความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในทุกชั้นของห้องพัก ให้บริการเครื่องทำน้ำแข็งตลอด 24 ชั่วโมงฟรี และเครื่องจำหน่ายสแน็ก-เครื่องดื่มอัตโนมัติ เพลิดเพลินกับ Wi-Fi ความเร็วสูงฟรีทั่วบริเวณโรงแรม นับเป็นการยกระดับการเข้าพักในทุกด้าน
โดดเด่นไม่แพ้ห้องพัก นั่นก็คือเรื่องของอาหารที่ชวนเปิดประสบการณ์ไปกับรสชาติ ตั้งแต่มื้อแรกของวัน The Garden Restaurant ให้บริการอาหารเช้าบุฟเฟ่ต์ไทยและอาหารนานาชาติในมื้อเช้า พร้อมเมนูไทยไฮไลท์สี่ภาค ทั้งผัดไทย ปอเปี๊ยะสด ข้าวซอย ไก่ย่างสมุนไพร เพลิดเพลินกับทัศนียภาพของทั้งวิวเมืองและสวนสวยลอยฟ้าของ The Garden ผ่านกระจกบานใสบานกว้างเปิดรับแสงธรรมชาติ มอบบรรยากาศที่สมบูรณ์แบบสำหรับการรับประทานอาหารอย่างผ่อนคลายใจกลางกรุงเทพฯ รวมถึงบุฟเฟต์อาหารเย็น วันศุกร์ – เสาร์ ในคอนเซปส์ Sea & Land โดยไฮไลต์ทางเลือกอาหารเช้าสุดพิเศษ แขกผู้เข้าพักสามารถเลือกรับประทานอาหารเช้าได้สองรูปแบบ จะเลือกอิ่มอร่อยกับเมนูพิเศษจาก ‘เชฟแมน’ ที่เสิร์ฟถึงห้องพัก หรือเลือกรับประทานที่ห้องอาหาร The Garden Restaurant ก็ได้เช่นกัน
ถัดจาก The Garden Restaurant เชื่อมต่อ The Garden Pavilion พื้นที่จัดงานกลางสวนอันร่มรื่นที่ได้รับการออกแบบอย่างสวยงามลงตัว เหมาะสำหรับงานสังสรรค์ส่วนตัว หรือเวิร์กช็อป งานแต่งงาน และปาร์ตี้กลางแจ้ง บนพื้นที่ 590 ตร.ม.
และสำหรับใครที่เป็นแฟนอาหารจีนกวางตุ้งต้นตำรับของเชฟแมน Chef Man Restaurant ภัตตาคารอาหารจีนระดับตำนาน การันตีความอร่อยด้วย Michelin Guide หลายปีซ้อน ฉลองเปิดสาขาใหม่ในบรรยากาศหรู ณ Grande Centre Point Prestige Bangkok นำรสชาติอาหารฮ่องกงสู่ใจกลางกรุงเทพฯ บนพื้นที่ 1,035 ตร.ม. ให้บริการ 2 ชั้น มีห้องพิเศษให้บริการ 8 ห้องบนชั้น 2 การันตีความอร่อยด้วยเมนูติ่มซำและเป็ดย่างสูตรพิเศษ รวมถึงเมนูมงคลที่รับประทานได้เฉพาะสาขานี้กับ “เมนูยี่ซังปลาแต้จิ๋ว” เสิร์ฟในบรรยากาศจีนโมเดิร์นหรูหรา เหมาะสำหรับการสังสรรค์ในครอบครัว หรือเพื่อนฝูง ที่สามารถอิ่มอร่อยได้ตลอดวัน สำหรับมื้อเช้า เวลา 06:00 น. – 10:30 น. และมื้อกลางวัน ให้บริการเวลา 11:00 น. – 15:00 น. รวมถึงมื้อเย็น เวลา 18:00 น. – 22:00 น. ที่ชั้นล็อบบี้
ส่วนใครที่อยากหลีกหนีความวุ่นวาย ทิ้งตัวในบรรยากาศสบาย ๆ ของคาเฟ่คอนเซปส์ใหม่ Bloom & Brew Café พร้อมกาแฟหอมกรุ่น รับประทานกับของว่างเบา ๆ หรือชุดอาฟเตอร์นูนทีเข้าคู่กับชาออร์แกนิก พร้อมเบเกอรี่หลากหลาย หรือถ้าต้องการอิ่มท้องก็เสิร์ฟอาหารไทยแนวใหม่ที่ผสมผสานระหว่างโลคอลกับนานาชาติ อย่าง เมนูข้าวซอยเป็ดกงฟี, ข้าวผัดมันกุ้ง, ข้าวผัดมันเนื้อไทยวากิวแฮมเบิร์ก, พิซซ่า, พาสต้า, ซุป, สลัด, กาแฟอาร์ติซาน, ชาพรีเมียม, ไอศกรีม plant base และขนมไทยสมัยใหม่ ให้บริการการตั้งแต่เวลา 07:00 น. – 22:00 น. ชั้นล็อบบี้
ดื่มด่ำกับมื้อดินเนอร์เปลี่ยนมู้ดสู่รูฟท็อปแจ๊สบาร์สุดคลาสสิก พร้อมวิวเมืองยามค่ำคืน เสิร์ฟอาหารไทยร่วมสมัยสไตล์ Casual รสชาติต้นตำรับ พร้อมเพลิดเพลินกับค็อกเทลซิกเนเจอร์ คลอเคล้าเสียงเพลงจากวงดนตรีบรรเลงสด พร้อมอาหารไทยเลิศรสที่ Brass House Bangkok ในบรรยากาศที่ราวกับหลุดเข้าไปในศตวรรษที่ 20 แรงบันดาลใจการตกแต่งแบบแจ๊สเธียเตอร์จากยุค ค.ศ.1920 ย้อนไปในยุคที่การดูหนังฟังเพลงเฟื่องฟู เพลิดเพลินกับเครื่องดื่มค็อกเทลซิกเนเจอร์ในโซนบาร์ และอาหารแนว Thai Casual Dining ผสมผสานรสชาติต้นตำรับเข้ากับการนำเสนออย่างสร้างสรรค์ ที่สะท้อนถึงจิตวิญญาณไทยสมัยใหม่ เมนูแนะนำอาทิ ลาบปลาอาจิมะแขว่น, ปลาหมึกคลุกฝุ่น, พล่าปลาอาจิดรายเอจ, หมูสะเต๊ะโทมาฮอค เสิร์ฟพร้อมขนมปังโฮมเมด, กุ้งทอดกระเทียม หรือจะเป็นอาหารแนว Finger Food แพริ่งกับเครื่องดื่มไวน์ชั้นเลิศ นั่งแฮงเอาต์ดื่มด่ำบรรยากาศแห่งสุนทรีย์ ไปพร้อมฟังดนตรีแจ๊สสดทุกวัน ที่จะขับกล่อมสองรอบต่อวัน รอบแรกเวลา 19:30 น. – 21:15 น. และรอบ 21.45 น.- 23.30 น. เปิดให้บริการเวลา 17:00 น. – 01:00 น. ณ ชั้น 45 ของโรงแรม
เพื่อเป็นการตอบโจทย์ Wellness Lifestyle ใจกลางเมือง โรงแรมยังให้ความสำคัญกับไลฟ์สไตล์สุขภาพและการผ่อนคลายอย่างแท้จริง ด้วยการสร้างสรรค์บริการต่าง ๆ อย่างครบครัน โดยเฉพาะ Sky Pool สระว่ายน้ำอินฟินิตี้มาตราฐานโอลิมปิคที่มีความยาว 50 เมตร มาพร้อมโบนัสวิวเมืองแบบพาโนรามา โดยเฉพาะลอยคอในสระน้ำยามเย็นชมวิวท้องฟ้าเปลี่ยนสีและพระอาทิตย์ซันเซ็ต เป็นช่วงเวลาที่สุดแสนโรแมนติก และชิลไปกับเครื่องดื่มเย็น ๆ สดชื่นที่ Sky Bar บาร์ริมสระว่ายน้ำ
สำหรับช่วงเวลาแห่งความผ่อนคลาย Let’s Relax Onsen & Spa มอบประสบการณ์ออนเซ็นสไตล์ญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ ในบรรยากาศที่สวยงามได้รับแรงบันดาลใจการตกแต่งจากเมืองฮิราคาตะ ประเทศญี่ปุ่น ภายใต้แนวคิด Harmony of Natural Materials ผสานความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติและความผ่อนคลายอย่างสมบูรณ์แบบทั้งร่างกายและจิตใจ ด้วยการแช่น้ำแร่อุ่น ๆ พร้อมชมวิวพื้นที่สีเขียวของราชกรีฑาสโมสรผ่านกระจกใสบานใหญ่ เล่นมิติแสงธรรมชาติ ผสานบริการสปาไทยยอดนิยม นวดผ่อนคลาย ท่ามกลางพื้นที่อันเงียบสงบกว่า 2,000 ตารางเมตร เวลาให้บริการตั้งแต่เวลา 10:00 – 00:00 น.
ในส่วนกิจกรรมสันทนาการที่ทันสมัย มอบบริการอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ Grande Centre Point Hotels อย่าง Games Room ที่นำแนวคิดเอนเตอร์เทนต์อย่างมีสีสัน คัดสรรเครื่องเล่นและเกมเป็นที่นิยมเสิร์ฟความสนุกสนานและผ่อนคลาย ให้กับแขกผู้เข้าพักทุกช่วงวัย อาทิ เกมส์อาร์เคด, บอร์ดเกมส์, ปาเป้า และเกมส์ออนไลน์
คลับออกกำลังกายวิวเมือง Gravity Fit Club ถูกใจสายฟิตเฟิร์ม ฟิตเนสธีมสนามมวยพร้อมนวัตกรรมการออกกำลังกายและพื้นที่แบบไดนามิก ทันสมัยด้วยอุปกรณ์ TechnoGym รุ่นใหม่ครบครัน เหมาะสำหรับการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ การฝึกความแข็งแรง หรือการยืดเหยียดเพื่อฟื้นฟูร่างกาย ให้วันสบาย ๆ ของคุณดำเนินไปอย่างช้า ๆ โฟกัสกับการใช้เวลาเพื่อสุขภาพ เปิดให้บริการเวลา 06:00 – 22:00 น.
คุณพ่อคุณแม่สบายใจสามารถฝากคุณหนูตัวน้อยกับทีมพี่เลี้ยง Kids Club พื้นที่ที่มีชีวิตชีวา ปลอดภัย และดึงดูดใจสำหรับครอบครัว ตกแต่งโดยแรงบันดาลใจจากงานวัดไทยและออกแบบมาเพื่อจุดประกายจินตนาการเด็ก ๆ คิดส์คลับมีโซนเล่นสุดสร้างสรรค์ ของเล่นที่เหมาะสมกับวัยจาก PlanToys และกิจกรรมภายใต้การดูแล ที่จะทำให้เด็ก ๆ ทุกคนรู้สึกเหมือนอยู่บ้าน เวลาเปิดทำการ: 08:00 – 22:00 น.
และ แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ ยังได้รับการชื่นชมในด้าน ห้องประชุมสัมมนา ที่กว้างขวาง พร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัยครบวงจร พร้อมรองรับการจัดงานทุกรูปแบบ ทั้งห้องจัดเลี้ยง และประชุมสัมมนา มีหลากหลายขนาดให้เลือกตั้งแต่ 100 ตารางเมตร ไปจนถึง 744 ตารางเมตร รองรับแขกได้กว่า 900 คน โดดเด่นด้วยจอ LED ขนาดใหญ่ และเพียบพร้อมด้วยระบบเสียงเซอร์ราวด์และเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย รวมถึงพื้นที่จัดงานกลางแจ้งที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติท่ามกลางสวนสวย และกลาสเฮาส์ที่ผสมผสานความเป็นส่วนตัวเข้ากับบรรยากาศอันงดงาม
🎉 โปรโมชั่นพิเศษฉลองการเปิดตัว
โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เพรสทีจ กรุงเทพฯ มอบโปรโมชันสุดพิเศษสำหรับการจองล่วงหน้าเพื่อการเข้าพัก ได้ตั้งแต่วันนี้ และพร้อมเข้าพักได้ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2568
📞 สำรองห้องพัก: โทร. 0 2124 1888
🌐 ข้อมูลเพิ่มเติมที่: www.grandecentrepointprestige.com