
LE LABO ชวนเดินทางผ่านกลิ่นหอมของเมืองเกียวโต กลิ่นใหม่ล่าสุด ‘OSMANTHUS 19’ ในคอลเลกชัน CITY EXCLUSIVE COLLECTION
City Exclusive Collection น้ำหอมคอลเลกชันสุดเอ็กซ์คลูซีฟของ Le Labo ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเฉลิมฉลองเมืองต่าง ๆ ทั่วโลกที่มีความหมายต่อการเดินทาง โดยแต่ละกลิ่นจะสะท้อนเอกลักษณ์และจิตวิญญาณของเมืองต้นกำเนิดนั้น ๆ ซึ่งปกติแต่ละกลิ่นพิเศษ จะถูกรังสรรค์และวางจำหน่ายเฉพาะในแล็บของเมืองที่เป็นต้นกำเนิดกลิ่นนั้น ๆ เท่านั้น ไม่มีวางจำหน่ายที่แล็บอื่น ไม่สามารถสั่งซื้อออนไลน์ และไม่มีบริการจัดส่ง ดั่งคำกล่าวที่ว่าบางความสวยงามก็ยากที่จะครอบครอง จึงเป็นความเอ็กซ์คลูซีฟและความท้าทายแบบสุด ๆ สำหรับเหล่านักสะสมกลิ่นหอม ที่จะต้องสรรหาเพื่อมาครอบครอง และภายในเดือนกันยายนของทุกปี Le Labo จะจัด City Exclusive Event ให้คอลเลกชัน City Exclusive ได้ออกเดินทางจากเมืองต้นกำเนิดไปยังทั่วโลก เพื่อตามหาผู้คนที่จะตกหลุมรักน้ำหอมเหล่านี้อย่างสุดหัวใจ นับเป็นโอกาสทองที่นักสะสมกลิ่นหอมของเมืองโปรด ได้รำลึกถึงเรื่องราวของกลิ่นหอมอันเต็มไปด้วยความหมาย
OSMANTHUS 19 – KYOTO
อีกความพิเศษแบบสุด ๆ ที่ City Exclusive Collection ต้อนรับเดือนกันยายนปีนี้ ด้วยน้ำหอมกลิ่นใหม่ล่าสุด OSMANTHUS 19 – KYOTO กลิ่นหอมที่บอกเล่าเรื่องราวของเมืองเกียวโต เมืองแห่งความสงบ เรียบง่าย และเต็มไปด้วยเรื่องราวแห่งประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่า ถ่ายทอดความประทับใจแรกผ่านกลิ่นหอมของธูปและดอกลาเวนเดอร์ ก่อนเผยโน้ตหลักความหอมของดอกหอมหมื่นลี้ (Osmanthus) ที่ถ่ายทอดห้วงเวลาอันน่าจดจำขณะที่ดอกหอมหมื่นลี้กำลังผลิบาน หอมฟุ้งอยู่ในอากาศ ผสานความหอมอบอวลของกลิ่นไม้และเรซินที่ลึกซึ้ง มอบความรู้สึกสงบอบอุ่น สะท้อนจิตวิญญาณอันลึกซึ้งของเมืองเกียวโต เมืองที่บ้านสไตล์เก่าแก่ “มาชิยะ” สามารถตั้งอยู่ท่ามกลางคอนกรีต และไฟนีออนได้อย่างกลมกลืน หลอมรวมเข้ากับปัจจุบันได้อย่างลงตัว
JAPAN’S TIMELESS INFLUENCE ON OUR CRAFT
แรงบันดาลใจจากญี่ปุ่น นับเป็นรากฐานที่หยั่งรากลึกลงในจิตวิญญาณ ไม่ว่าจะเป็นความงามในสิ่งธรรมดา ความเคารพในงานฝีมือ และการยอมรับในความไม่สมบูรณ์แบบ สิ่งเหล่านี้หล่อหลอมเป็นปรัชญาวะบิ–ซะบิ (wabi-sabi) ที่ Le Labo ยึดถือ จากแล็บแห่งแรกนอกสหรัฐฯ ที่ย่านไดคังยามะ (Daikanyama) โตเกียวในปี 2007 และในเวลาต่อมา GAIAC 10 กลิ่นที่สะท้อนความเคารพอันลึกซึ้งต่อสถานที่ซึ่งเต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ ได้กลายเป็น City Exclusive ของเมืองโตเกียว การเดินทางของกลิ่นสู่ “เมื่องเกียวโต” เริ่มต้นในปี 2020 ด้วยแล็บแรกที่ Ace Hotel และในปี 2024 ได้เปิดแล็บในบ้านดั้งเดิมแบบมาชิยะ (Machiya) ในย่านชิโมะโคะริคิโจ (Shimokorikicho) ของเขตนากะเงียวคุ (Nakagyo-ku) นับว่า เกียวโต เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณอันลึกซึ้ง และเป็นสถานที่ที่สมบูรณ์แบบในการสานต่อแรงบันดาลใจจากญี่ปุ่น ผ่านการรังสรรค์ OSMANTHUS 19 น้ำหอม City Exclusive กลิ่นที่สองสำหรับญี่ปุ่น
📌 ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน
คอลเลกชัน City Exclusive ในขนาดตัวอย่าง และ Discovery Set จะวางจำหน่ายบนเว็ปไซต์ Le Labo Fragrance และที่แล็บทั่วโลก
📌 ระหวางวันที่ 1 – 30 กันยายน
คอลเลกชัน City Exclusive ในขนาด full-size จะวางจำหน่ายที่แล็บทั่วโลก บางเคาน์เตอร์ที่ระบุไว้ (retailers) และบนเว็ปไซต์ Le Labo Fragrances
📌 ตลอดทั้งปี
คอลเลกชัน City Exclusive วางจำหน่ายในแล็บของเมืองที่เป็นต้นกำเนิดกลิ่นนั้น ๆ
ขวด City Exclusive ขนาด 50 มล. และ 100 มล. สามารถนำมารีฟีลได้ในแล็บที่ร่วมรายการทั่วโลก พร้อมรับส่วนลด 20% จากราคาปกติ เยี่ยมชม lelabofragrances.com เพื่อเช็คแล็บที่ร่วมรายการ
__________||__________
CITY EXCLUSIVE COLLECTION
การเดินทางของ 18 กลิ่นหอม กับ 18 เมือง
CORIANDRE 39 – Mexico City
กลิ่นของมะนาวและกลิ่นของใบผักชีในโทนอัลดีไฮด์สร้างกลิ่นหอมที่มีชีวิตชีวาให้สัมผัสแรก ผสานกับกลิ่นมัสก์ที่ติดทนนานชวนหลงไหล มอบความรู้สึกสงบและความมีชีวิตชีวาราวกับอยู่ท่ามกลางสวนธรรมชาติกลางเมืองเม็กซิโก หรือนั่งจิบเมซคาลในร้านกาแฟแถวย่าน La Condesa
MYRRHE 55 – Shanghai
เมอรห์ (Myrrh) ยางไม้ศักดิ์สิทธิ์ที่มีค่ามากกว่าทองคำ เป็นหนึ่งในกลิ่นกำยานที่ผสานกับกลิ่นของชะเอมเทศเข้มข้น (Licorice) รวมถึงมะลิ และพิมเสน (Patchouli) อยู่บนฐานกลิ่นเบสของไม้หอม Oud แอมเบอร์กริส และมัสก์ กลิ่นหอมแบบ Chypre นี้ให้มิติที่ลึกลับน่าค้นหา ผสานความเก่าและใหม่แบบร่วมสมัยของนครเซี่ยงไฮ้
CEDRAT 37 – Berlin
การผสมผสานอย่างละเมียดละไมระหว่างส้มมะงั่ว (Cedrat) และขิง (Ginger) ขับความสดชื่น ความเปรี้ยว เคลือบด้วยความหวานอันน่าหลงใหล บนเบสความเย้ายวนอันเป็นเอกลักษณ์ ของ Le Labo อย่างไม้หอม มัสก์ และโน้ตจากอำพันทะเล (Ambergris) ซึ่งรวมกลายเป็นกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเบอร์ลิน ที่โอบรับความสนุกสนานแม้จะผ่านช่วงเวลาที่เคยมืดมน ถึงเวลากับการประกาศอิสรภาพสักที
CITRON 28 – Seoul
พลังของกลิ่นซีตรัสนำมามิกซ์แอนด์แมทช์กับกลิ่นเลมอน (Lemon) ขิง (Ginger) และดอกมะลิ (Jasmine) เป็นกลิ่นท้อปโน้ต ตามด้วยกลิ่นไม้ซีดาร์ (Cedar) และกลิ่นมัสก์ เกิดเป็นความสมดุลระหว่างความเป็นเอกลักษณ์ของเมืองล้ำสมัยผสานขนบเดิมของรากเหง้าประเพณี ทำให้กลิ่น CITRON 28 คือตำตอบของกลิ่นอันบริสุทธิ์ และเรียบง่าย ไม่ซับซ้อนแต่ซ่อนความนัยไว้ กลายเป็นพลังความต่างขั้วที่มีเฉพาะกลิ่นซีตรัสโบฮีเมียนเท่านั้นที่ถ่ายทอดออกมาได้
TABAC 28 – Miami
กลิ่นควันอันเย้ายวนและมีเสน่ห์ กลิ่นลุ่มลึกของยาสูบ ลองนึกภาพของกลิ่นรัมฮาวานากลั่น ผสานมวลกลิ่นไม้กฤษณาหอมหรูหรา (Opulent Oud) และไม้ซีดาร์ที่หอมเด่น (Cedarwood) ให้ความรู้สึกทั้งนุ่มนวลและคุกรุ่น ไม้ Gaiac และเหล้ารัมให้กลิ่นหอมโทนอบอุ่นชวนหลงใหล ห่อหุ้มอยู่ในกลิ่นกระวาน (Green Cardamom) ทั้งหมดมีชีวิตชีวา ปลุกเร้า ยวนใจ เหมือนภาพกราฟฟิตี้สีสันฉูดฉาดบาดตาละเลงไปทั่วย่าน Wynwood กลิ่น TABAC 28 มีเฉพาะที่เมืองไมอามีเท่านั้น
BIGARADE 18 – Hong Kong
Bigarade เป็นกลิ่นที่อยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนของกลิ่นที่ต่างกันสุดขั้ว กลิ่นสว่าง สดใส และทรงพลัง ในขณะเดียวกันก็มีความเรียบง่าย มะกรูดและกลีบดอกเนโรลี (Neroli) ผสมกับมัสก์ชั้นยอดหยดด้วยกลิ่นไม้หอมหนึ่งถึงสองหยด มอบกลิ่นคลาสสิกอย่างซีตรัส เคล้าโน้ตกลิ่นหอมลุ่มลึก และกลิ่นไม้หอมที่ค่อย ๆ เผยออกมา BIGARADE 18 ให้กลิ่นที่ชัดเจนแต่แผฝงไว้ด้วยความรู้สึกสบาย คลาสสิกแต่ร่วมสมัย น้ำหอมกลิ่นนี้รังสรรค์ให้ฮ่องกง ดินแดนเสน่ห์ของความหอมทั้งเก่าและใหม่ อบอวลในความทรงจำของเราด้วยกลิ่นคลาสสิกของดอกไม้สีขาว และกลิ่นซีตรัส ผสานเข้ากับความยิ่งใหญ่ เป็นการค้นพบที่ไม่รู้จบ
MOUSSE DE CHENE 30 – Amsterdam
กลิ่นมอส (Moss) และพิมเสน (Patchouli) จับคู่กับ คริสตัล มอส (Crystal Moss) และเคลียร์วูด (Clearwood) อบเชย (Cinnamon) น้ำมัน Pimento Bay และพริกไทยสีชมพู ช่างเป็นกลิ่นที่เหนือกาลเวลา เย้ายวน ชัดเจนและทรงพลังอย่างน่าประหลาด สำหรับคนที่ไม่ชอบถ้อยคำพรรณา พูดง่าย ๆ กลิ่น MOUSSE DE CHENE 30 คือกลิ่นแนวนีโอ–ชีเพร (Neo-chypre) ที่ผสานขนบเดิมเข้ากับความคิดก้าวหน้าทันสมัย สื่อถึง เมืองอัมสเตอร์ดัม ได้ดี
ALDEHYDE 44 – Dallas
ALDEHYDE 44 มีเฉพาะที่ดัลลัส (เท็กซัส) เท่านั้น น้ำหอมกลิ่นนี้คือความน่าทึ่งในขวดเล็ก ๆ การระเบิดกลิ่นของอัลดีไฮด์ aldehyde ที่ให้ความสะอาดแบบไม่เหมือนใคร ตามด้วยกลิ่นมวลดอกไม้ อย่าง ดอกนาร์ซิสซัส (Narcissus) ดอกมะลิ และทิวบ์โรส (Tuberose) วางบนฐานของกลิ่นมัสก์ เจือกลิ่นวานิลลาบาง ๆ ผลลัพธ์ที่ได้คือความงดงามแบบมินิมอลที่ชัดเจนและไม่เหมือนใคร
LIMETTE 37 – San Francisco
น้ำหอมกลิ่นสะอาด มอบความสดชื่นผ่อนคลายนี้ พาไปสัมผัสถึงสุนทรียศาสตร์ทางกลิ่น ที่เลียนแบบความรู้สึกของการขับรถไปตามเนินเขาจากร้านค้าริมถนนฟิลมอร์ไปถึงริมอ่าว ชมวิวริมทางเปิดด้วยกลิ่นที่ให้ความรู้สึกสดชื่น สบาย ๆ ของผิวมะกรูด (Bergamot) ก่อนจะมอบสัมผัสอันอบอุ่นของกลิ่นดอกมะลิ เพตติเกรน (Petit Grain) และกานพลู (Clove) ผสมผสานความนุ่มนวลของกลิ่นหญ้าแฝก (Vetiver) ถั่วตองก้า (Tonka Bean) และมัสก์เข้าด้วยกัน
CUIR 28 – Dubai
กลิ่นที่รังสรรค์สำหรับเมืองดูไบโดยเฉพาะ โน้ตกลิ่นเสื้อหนัง ไม้ และกลิ่นมัสก์ ให้บุคลิกของกลิ่นที่หนักแน่น ดิบเข้ม และชวนจดจำด้วยหัวน้ำหอมกลิ่นวานิลลาแท้ แต่เป็นวานิลลาที่เจือกลิ่นพื้นถนนที่คุกรุ่น ผสมกลิ่นหนังได้อย่างลงตัว ทำให้น้ำหอม CUIR 28 มีกลิ่นหอมนุ่มลึกในสไตล์กลิ่นโทนแอมเบอร์ที่เสพติดได้ง่ายแบบไม่รู้ตัว
BENJOIN 19 – Moscow
กลิ่นหอมที่สะท้อนตัวตนของมอสโกกลิ่นนี้ ถ่ายทอดช่วงเวลาของหนึ่งในนักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ของโลก Leo Tolstoy ในวรรณกรรมชิ้นอมตะเรื่อง Anna Karenina ในช่วงเวลาที่ Anna ได้พบกับ Count Vronsky บนสถานีรถไฟในกรุงมอสโก เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตที่พลิกผันและไม่มีวันเหมือนเดิม BENJOIN 19 เป็นภาพสะท้อนโมเสกของเรื่องราวที่ถักทอเข้าด้วยกันดังในวรรณกรรม โดยมีกลิ่นแก่นกลางคือ กำยานหรือ Benjoin, ยางกำยาน, แอมเบอร์, ไม้ซีดาร์ และมัสก์ ถ่ายทอดประสบการณ์อันทรงพลังชวนลุ่มหลง มอบสัมผัสแห่งกลิ่นที่ทั้งติดทนและติดตรึง
BAIE ROSE 26 – Chicago
เบื้องหลังของกลิ่นหอมนี้ คือท่วงทำนองของดนตรีแจ๊สอันน่าหลงใหล เช่นเดียวกับท่วงทำนองของเครื่องเทศ อัลดีไฮด์ และมัสก์ที่บรรเลงร่วมกับพริกไทยสีชมพู กานพลู สลับกับกลิ่นไม้ซีดาร์ ปลุกเร้าจิตวิญญาณด้วยกลิ่นเฉพาะตัวของเมืองชิคาโก กานพลู (Clove) สลับกับกลิ่นไม้ซีดาร์ (Cedar) และอัลดีไฮด์ (Aldehyde) ไปจนถึงกลิ่นของดอกกุหลาบจากเมืองกราส (Grasse) เป็นอีกกลิ่นที่น่าจดจำ
POIVRE 23 – London
กลิ่น Bourbon Pepper ราชาแห่งพริกไทย ที่ให้ความเผ็ดร้อนแฝงด้วยโทนอบอุ่น และกลิ่นแอมเบอร์ที่นุ่มนวลลึกซึ้ง และมีเอกลักษณ์ที่สุดในวงการน้ำหอม ที่สงวนไว้สำหรับลอนดอนเท่านั้น
MUSC 25 – Los Angeles
กลิ่นหอมชวนฝันจากกลิ่นโน้ตมัสก์ และแอลดีไฮด์ (Aldehydic) แม้กลิ่นนี้จะเหมือนแสงจากสวรรค์ แต่กลิ่นหลักกลับแฝงความมืดมนดำดิ่ง ผสานกลิ่นที่เย้ายวนชวนลุ่มหลงของหญ้าแฝก (Vetiver) กับอำพันทะเล (Ambergris) มัสก์ และไขชะมด (Civet) กลิ่นวีแกนสังเคราะห์นี้ชวนเคลิบเคลิ้ม สะท้อนความขัดแย้งระหว่างความสว่างและความดำมืดได้อย่างมีเสน่ห์ ไปกับ MUSC 25
GAIAC 10 – Tokyo
Gaiac ไม้เนื้อแข็งที่ยังคงความสด ไม่แห้งเหมือนไม้ซีดาร์ ทว่าให้กลิ่นหอมที่นุ่มนวลล้ำลึก ติดทนนาน GAIAC 10 ให้กลิ่นหอมเข้มจากเนื้อไม้ และโน้ตกลิ่นมัสก์ที่ต่างกัน 4 ระดับ เจือกลิ่นไม้ซีดาร์และกำยาน (Olibanum) ให้กลิ่นที่อบอวลติดตรึงบนผิวกายตลอดวัน ตลอดคืน ไม่ว่าอารมณ์ของคุณจะแปรเปลี่ยนไปอย่างไร
VANILLE 44 – Paris
ปารีสเมืองต้นกำเนิดของน้ำหอมกลิ่น VANILLE 44 ที่อบอวลด้วยกลิ่นแอมเบอร์เจือกำยาน ไม้ และเครื่องหอมที่หรูหราน่าหลงใหล ก่อนจะเผยกลิ่นวานิลลาบูร์บง ที่นุ่มนวลอย่างที่คุ้นเคย เป็นกลิ่นวานิลลาที่ซุกซ่อนอยู่ ไม่เหมือนใคร
TUBEREUSE 40 – New York
มาด้วยกลิ่นเปิดที่ดึงดูดของมะกรูด (Bergamot) ส้มเขียวหวาน (Tangerine) และดอกส้ม (Orange Flower) ที่ให้ความหอมระดับ “Eau de cologne” กลิ่นท้อปโน้ตที่ได้จึงให้ความรู้สึกผ่อนคลาย ก่อนจะค่อย ๆ เผยกลิ่นกลางของแมกไม้และดอกไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ กลิ่นของดอกไม้สีขาวนานาพรรณ ก่อนที่ทิวบ์โรสจะเผยออกมาในที่สุด ตามด้วยไม้หอมอย่างซีดาร์ (Cedar) และไม้จันทน์ (Sandalwood) คลอเคลียไปกับโอ๊คมอส (Oak Moss) มัสก์ และแอมเบรต (Ambrette) ส่งต่อกลิ่นหอมอันเย้ายวนทั้งวันทั้งคืนเสมือนเมืองท่ไม่เคยหลับไหล
OSMANTHUS 19 – KYOTO
และล่าสุดกับกลิ่นน้องใหม่ ที่ชวนให้เราเดินทางไปสัมผัสกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเกียวโต ผ่านกลิ่นหอมของธูป ดอกลาเวนเดอร์ และความหอมของดอกหอมหมื่นลี้ (Osmanthus) ที่กำลังผลิบาน ผสานกลิ่นไม้และเรซิน ที่ถ่ายทอดกลิ่นอันลึกซึ้งเมืองเก่าแก่ผสานความงดงามของอดีตเข้ากับปัจจุบันได้อย่างลงตัว
📢 ตลอดเดือนกันยายน 2568 พร้อมให้ทุกคนได้เดินทางไปสัมผัสกลิ่นหอมของเมืองต่าง ๆ อันเป็นที่รักกับ City Exclusive Collection และรวมถึงกลิ่นใหม่ล่าสุด OSMANTHUS 19 – KYOTO ได้แล้ว ณ Le Labo สาขาสยามพารากอน, เอ็มสเฟียร์, ไอคอนสยาม และอารีย์