การเดินทางของผ้าไทยผ่านฉลองพระองค์สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ “พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ”
พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (Queen Sirikit Museum of Textiles) แหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับผ้าไทยและประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย จัดตั้งโดย สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการในวันที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 ผ่านมาเป็นเวลา 13 ปีแล้ว เพื่อเป็นแหล่งศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับผ้าไทย และประวัติศาสตร์เครื่องแต่งกายของคนไทย สืบสานมรดกผ้าไทยให้เป็นสถานที่รวบรวมจัดเก็บรักษาผ้าไทย รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนจัดแสดงงานหัตถศิลป์จากผ้าอันทรงคุณค่าของราชสำนัก และผ้าพื้นเมืองต่าง ๆ เพื่อสืบสานพระราชปณิธานในการอนุรักษ์การทอผ้าของไทยให้คงอยู่เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมของชาติสืบไป
ในวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555 สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จเยือนพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อทอดพระเนตรห้องจัดแสดงต่าง ๆ ห้องปฏิบัติการอนุรักษ์ ตลอดจนร้านพิพิธภัณฑ์
โดยภายในพิพิธภัณฑ์แบ่งออกเป็นโซนต่าง ๆ ให้ได้เรียนรู้
สิริราชพัสตราบรมราชินีนาถ
จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา ๙๐ พรรษา ๑๒ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ และเพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ผ่านฉลองพระองค์ในช่วงเวลาต่าง ๆ
ปัก : ถัก : ทอ
จัดแสดงผ้าที่สวยงามเป็นเอกลักษณ์จากภูมิภาคต่าง ๆ ของไทย ผ่านผลงานศิลปะสื่อผสมร่วมสมัยที่ผลิตจากผ้ามูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในภูมิภาคต่าง ๆ นอกจากนี้ยังจัดแสดงตัวอย่างผ้าแต่ละประเภทและอุปกรณ์ทอผ้า รวมถึงกรรมวิธีการทอผ้าหลากชนิด ได้แก่ ผ้าขิด ผ้าจก ผ้ายก ผ้าฝ้าย ผ้าแพรวา ผ้าชาวไทยภูเขา ผ้ามัดหมี่ ผ้าปักซอยแบบไทย และผ้าบาติก เพื่อส่งเสริมความรู้ความเข้าใจในความเป็นมา และความสําคัญของผ้าแต่ละท้องถิ่น เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่า และเพื่อสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง
ร้านพิพิธภัณฑ์
เป็นร้านจำหน่ายหนังสือ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ของพิพิธภัณฑ์ผ้าฯ ตลอดจนผลิตภัณฑ์ของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ทั้งในแบบดั้งเดิม และแบบร่วมสมัย เช่น สินค้าตกแต่งบ้าน, เครื่องแต่งกายที่ทำจากผ้าฝ้ายและผ้าไหม, เครื่องประดับ, เครื่องจักสาน, เครื่องเขียน และดอกไม้ประดิษฐ์ เป็นต้น นอกจากนี้ร้านพิพิธภัณฑ์ยังจำหน่ายสินค้าที่ออกแบบขึ้นมาพิเศษ เพื่อให้เกี่ยวเนื่องกับนิทรรศการที่จัดแสดงอีกด้วย
นิทรรศการ “ชุดไทย : จากราชสำนักสู่ราชนิยม”
ชุดไทยพระราชนิยม ๘ แบบ
จัดแสดง วันนี้ – เมษายน พ.ศ. 2571
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มีพระราชดำริที่จะทรงฉลองพระองค์ที่แสดงถึงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย ในการโดยเสด็จพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ไปทรงเจริญสัมพันธไมตีกับชาติ ต่าง ๆ ในทวีปยุโรปและสหรัฐเมริกา เมื่อ พ.ศ. 2503 จึงได้มีพระราชเสาวนีย์ให้ผู้เชี่ยวชาญออกแบบ และมีพระราชวินิจฉัยเห็นชอบ จนได้ชุดไทยทั้งหมด ๘ แบบ ซึ่งรู้จักกันในเวลาต่อมาว่า “ชุดไทยพระราชนิยม” และกลายเป็นต้นแบบชุดประจำชาติของสตรีไทยในปัจจุบัน โดยจัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการ “ชุดไทย : จากราชสำนักสู่ราชนิยม” เปิดให้เข้าชม ณ ห้องจัดแสดง 1
ชุดไทยจักรพรรดิ
ตั้งตามชื่อพระที่นั่งจักรพรรดิพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพิธีเต็มยศกลางคืน ท่อนบนห่มผ้าสองชั้น ชั้นในมักเป็นสไบจีบ และห่มสะพักทับผ้านุ่งยกทอง จีบแบบเดียวกับชุดไทยจักรี คาดเข็มขัดและใส่เครื่องประดับเข้าชุดกัน
ชุดไทยศิวาลัย
ตั้งตามชื่อพระที่นั่งศิวาลัยมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีทั้งเวลากลางวันและกลางคืน เป็นชุดแบบเดียวกับชุดไทยบรมพมาน แต่ห่มสะพักทับอีกชั้นหนึ่ง
ชุดไทยจักรี
ตั้งตามชื่อพระที่นั่งจักรีมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพิธีกลางคืน ท่อนบนเปิดไหล่หนึ่งด้านเป็นสไบปักหรือไม่ปักก็ได้ ตัดเย็บติดกับท่อนล่าง ซึ่งเป็นผ้านุ่งจีบ เป็นผ้าไหมยกทองทั้งตัวหรือยกเฉพาะเชิงก็ได้
ชุดไทยบรมพิมาน
ตั้งตามชื่อพระที่นั่งบรมพิมานในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน เสื้อแขนยาวคอกลมมีขอบตั้ง ตัวเสื้อและผ้านุ่งติดกันเป็นชุดเดียว ตัดเย็บด้วยผ้าไหมที่มีทองแกมหรือยกทองทั้งตัวก็ได้ นุ่งจีบแล้วใช้เข็มขัดไทยคาด
ชุดไทยดุสิต
ตั้งตามชื่อพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาทในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพิธีเต็มยศกลางคืน ตัดเย็บด้วยผ้ายกไหมหรือยกทอง ผ้านุ่งจีบ เสื้อคอกล้วง ไม่มีแขน ปักด้วยดิ้นเงินดิ้นทองหรือลูกปัด
ชุดไทยอมรินทร์
ตั้งตามพระที่นั่งอมรินทร์วินิจฉัยมไหยสูรยพิมาน ในพระบรมมหาราชวัง ใช้ในงานพระราชพิธีและงานพิธีกลางคืน มีลักษณะเหมือนชุดไทยจิตรลดา แต่ตัดเย็บด้วยผ้ายกไหม ที่มีทองแกมหรือยกทองทั้งตัว ความสวยงามอยู่ที่เนื้อผ้าและเครื่องประดับ
ชุดไทยจิตรลดา
ตั้งตามชื่อพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน เป็นชุดที่ใช้ในเวลากลางวัน ลักษณะทั่วไปคล้ายกับชุดไทยเรือนต้น ต่างกันตรงคอเสื้อที่มีขอบตั้ง แขนยาวจรดข้อมือ ผ้านุ่งป้ายเป็นผ้าไหมยกดอกมีเชิง หรือยกดอกทั้งตัว ใช้เครื่องประดับตามควร
ชุดไทยเรือนต้น
ตั้งตามชื่อพระตำหนักเรือนต้นในพระราชวังดุสิต เป็นชุดไทยแบบลำลอง ใช้ในโอกาสไม่เป็นทางการ ตัดเย็บด้วยผ้าฝ้ายหรือผ้าไหม ลักษณะเป็นผ้านุ่งป้ายยาวจรดข้อเท้า ผ้าลายตามขวางหรือตามยาวก็ได้ เสื้อเป็นคอกลมตื้น ใช้ผ้าสีตามริ้วหรือเชิงจะเป็นสีเดียวกับซิ่นหรือสีตัดกันก็ได้ แขนสามส่วน ติดกระดุมหน้าห้าเม็ด ใช้กับเครื่องประดับน้อยชิ้น
เวลาทำการ: เปิดให้บริการทุกวัน
ตั้งแต่เวลา: 09.00 – 16.30 น. / วันเสาร์ ปิดให้บริการ 16.00 น.
เวลาจำหน่ายบัตร: 9.00 – 15.30 น.
.
อัตราค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่: 150 บาท
ผู้สูงอายุ (อายุ 65 ปีขึ้นไป): 80 บาท
นักเรียน/นักศึกษา: 50 บาท
เด็กอายุ 12-18 ปี: 50 บาท
เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี: เข้าชมฟรี
.
การเดินทาง: สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT ลงสถานีสนามไชย ทางออก 1 หรือจะขับรถส่วนตัวมาก็ได้เช่นเดียวกัน
พิกัด: พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ณ หอรัษฎากรพิพัฒน์ เขตพระราชฐานชั้นนอก ริมกำแพงพระบรมมหาราชวังทางทิศเหนือ ระหว่างประตูวิเศษไชยศรีและประตูวิมานเทเวศร์
โทร. 0 2225 9420, 0 2225 9430
เว็บไซต์: www.qsmtthailand.org
เฟซบุ๊ก: qsmtthailand
อินสตาแกรม: qsmtthailand
เว็บไซต์: http://www.qsmtthailand.org/th
ที่มา: พิพิธภัณฑ์ผ้าในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
เครดิตข้อมูล / ภาพ: https://www.royalgrandpalace.th/th/attraction/queen-sirikit