TOP

การกลับมาอีกครั้งของ RADO Golden Horse ตำนานเรือนเวลาไอคอนนิคจากปี 1957

‘Ageless’ หรือ ความอมตะที่ไม่มีอายุมาเป็นข้อจำกัด และไม่ว่าเจเนอเรชั่นไหนก็สามารถเข้าถึงรสนิยมที่เหมือนกันได้ เช่นเดียวกับคอลเลคชั่นล่าสุด ราโด โกลเด้น ฮอร์ส (RADO Golden Horse) ที่หยิบความรู้สึกหวนระลึกถึงอดีตมาผสมผสานกับความโมเดิร์น ส่งมอบความปรารถนาและแรงบันดาลใจอย่างไม่มีรอยต่อระหว่างวัยจากรุ่นสู่รุ่นได้อย่างประทับใจ

ราโด โกลเด้น ฮอร์ส สไตล์คอนเทมโพรารี่ ที่ยังคงดีไซน์พื้นฐานดั้งเดิมไว้ แต่ปรับแต่งดีเทลบางอย่างให้โดดเด่นและโมเดิร์นมากขึ้น อาทิ อัพไซส์ตัวเรือนจาก 37 มิลลิเมตร เป็น 42 มิลลิเมตร, ขอบตัวเรือนที่หนาขึ้น ไปจนถึงเม็ดมะยมที่ดูสะดุดตา ซึ่งองค์ประกอบโดยรวมทั้งหมดนี้ ส่งผลให้รูปทรงที่ได้รับอิทธิพลมาจากดีไซน์วินเทจในยุคก่อนดูมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำยิ่งขึ้น ทั้งยังสื่อถึงตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน รังสรรค์บนตัวเรือนสแตนเลส สตีล ที่ผสมผสานนวัตกรรมด้านวัสดุที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ล่าสุด อย่าง เซรามอส (CeramosTM) สีโรสโกลด์ ซึ่งประกอบไปด้วยไฮเทคเซรามิก 90% + โลหะอัลลอยด์ อีก 10% หรือจะเป็นวัสดุซิกเนเจอร์อย่าง ไฮเทคเซรามิก ในโทนสีอุ่นไว้อย่างสมดุล มอบประกายหรูหราแบบทูโทนที่ครบถ้วนไปด้วยดีไซน์วินเทจและดีเอ็นเอของราโด ทั้งยังคงคุณสมบัติทนทานต่อรอยขีดข่วนได้อย่างเหนือชั้น มาพร้อมสัญลักษณ์ม้าน้ำคู่ เอกลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ประจำคอลเลคชั่นนี้ ประดับบนพื้นหน้าปัดหลากเฉดสี อาทิ หน้าปัดสีเทาเข้ม, สีน้ำเงิน, สีเขียว และสีเงิน ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติ ETA C07 ของสวิสซึ่งมีพลังงานสำรองยาวนานถึง 80 ชั่วโมง เลือกจับคู่สายหนังหรือสายสแตนเลส สตีล ที่ให้คุณเปลี่ยนได้ง่ายตามชอบใจ โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์

 

ชลธิช วรรณอุบล I บรรณาธิการดิจิทัล