TOP

รู้หรือไม่ ? “ฟังดนตรี” ขณะทำงาน เลือกถูกแนวไอเดียพุ่งกระฉูด!

หลายคนชอบฟังเพลงเวลาทำงานด้วยเหตุผลต่างๆ อาจจะเป็นเพราะความชอบส่วนตัว หรือเพื่อตัดเสียงรบกวนที่ไม่น่าปรารถนา สร้างความผ่อนคลาย หลายๆคนเลือกใช้เพื่อลดความเครียดจากการทำงาน แต่มีสิ่งหนึ่งที่หลายๆ คนคงยังไม่ทราบนั่นก็คือ นอกจากความผ่อนคลาย การฟังเพลงยังสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้ดีขึ้นได้ โดยงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย Birmingham ประเทศอังกฤษ ค้นพบว่า การฟังเพลงส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงาน ยิ่งถ้าหากเป็นงานที่ต้องทำซ้ำๆ เป็นกิจวัตร อย่างเช่น การเช็กอีเมล การคีย์ข้อมูล การฟังเพลงจะช่วยทำให้เราทำงานเหล่านี้ได้เร็วและถูกต้องมากยิ่งขึ้น

แต่ถ้างานของคุณเป็นงานที่ต้องใช้สมองซะส่วนมาก การเลือกดนตรีหรือเพลงให้เหมาะสมก็อาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่นักวิทยาศาสตร์ก็ได้ทำการหาดนตรีที่เหมาะกับคุณมาให้แล้ว และประเภทของดนตรีต่อไปนี้จะช่วยให้คุณทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองเปิดเพลงประเภทนี้พร้อมกับนั่งทำงานไปด้วย คุณอาจมีสมาธิและทำงานได้ดีขึ้นก็เป็นได้

1. เพลงที่มีเสียงประกอบเป็นเสียงธรรมชาติ ช่วยให้อารมณ์ดีและมีสมาธิ
จากงานวิจัยของสถาบัน Rensselaer Polytechnic Institute พบว่า การฟังเพลงที่มีเสียงประกอบจากเสียงของธรรมชาติ สามารถช่วยให้ผู้ฟังอารมณ์ดีและมีสมาธิในการทำงานมากขึ้น ซึ่งเสียงที่นักวิจัยใช้ในการวิจัยคือเสียงน้ำจากลำธาร โดยผลก็คือเสียงน้ำจากลำธารนี้ไม่ได้ทำให้กลุ่มตัวอย่างเสียสมาธิแต่อย่างใด

2. ฟังเพลงที่คุณชื่นชอบ ช่วยพาให้สมองโลดแล่น
เรื่องนี้ถูกยืนยันโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ Teresa Lesiuk แห่งมหาวิทยาลัยไมอามี่ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านดนตรีบำบัด เปิดเผยว่า การเลือกฟังเพลงตามความชอบนั้นมีความสำคัญโดยเฉพาะกับคนทำงาน จะช่วยให้งานที่ทำเสร็จไวยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ๆ โดยกลุ่มตัวอย่างของงานวิจัยนี้คือ บุคคลที่มักฟังเพลงที่ชื่นชอบในขณะทำงาน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คืองานจะสำเร็จเร็วขึ้น อีกทั้งยังมีไอเดียในการทำงานที่ดีกว่ากลุ่มคนที่ไม่ฟังอีกด้วย เนื่องจากเพลงที่ชอบ สามารถทำให้คนอารมณ์ดีขึ้นได้นั่นเอง

3. เพลงบรรเลงดีกว่าเพลงที่มีเนื้อร้อง
แม้ว่าการฟังเพลงจะทำให้เรามีสมาธิได้มากขึ้นก็จริง แต่การฟังเพลงที่มีเนื้อร้องก็อาจจะทำให้สมองถูกรบกวนได้ โดยการศึกษาจาก Cambridge Sound Management พบว่า เสียงเพลงบรรเลงนั้นจะไม่เข้าไปรบกวนสมอง แต่เพลงที่มีเนื้อร้องจะทำให้ผู้ฟังสามารถไขว้เขว เหมือนกับเวลาที่คุณได้ยินคนพูด คุณมักจะหยุดการทำงานและหันไปฟังว่าเขาพูดว่าอะไร งานวิจัยของ Cambridge ในปี 2551 ชี้ว่า 48% ของคนทำงาน จะถูกทำลายสมาธิได้โดยง่ายจากคำพูด หรือการฟังคนอื่นคุยกัน คุณมักจะไม่มีสมาธิเท่าที่ควรหากคุณฟังเพลงที่มีเนื้อร้องควบคู่ไปด้วย เพราะสมาธิของคุณมักจะไปอยู่กับเนื้อร้องมากกว่า
ดังนั้น หากคุณต้องการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้องอาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

4. จังหวะของเพลง ก็สำคัญต่อการทำงานของสมอง
จังหวะของเพลงสามารถเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีได้เลยทีเดียว งานวิจัยหนึ่งของนักวิจัยชาวแคนาดาระบุว่า กลุ่มตัวอย่างที่ฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วในขณะที่ทำแบบทดสอบวัด IQ จะทำแบบทดสอบออกมาได้ดีกว่า ถ้างานของคุณต้องการความกระตือรือร้น ลองฟังเพลงที่มีจังหวะเร็วและเร้าใจในกรณีที่ต้องการให้งานสำเร็จอย่างรวดเร็วดูนะครับ
นอกจากนี้ยังมีการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแมรีแลนด์, มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย และโรงพยาบาลฮาร์เบอร์ในบัลติมอร์ ซึ่งพบว่าเพลงที่เหมาะกับการฟังเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานควรเป็นดนตรีแบบบาโรก (Baroque music) เพราะจะช่วยให้สมองผ่อนคลายความเครียดได้ดีกว่าเพลงในแนวอื่นๆ

5. ระดับความดังของเสียง ส่งผลโดยตรงต่อสมาธิ
ระดับความดังของเสียงก็ยังมีส่วนสำคัญในเรื่องของสมาธิอีกด้วย ซึ่งในเรื่องนี้ ก็มีงานวิจัยจากสามมหาวิทยาลัย University of Illinois , University of British Columbia และ University of Virginia ซึ่งได้ข้อสรุปที่ตรงกันว่า เสียงที่พอเหมาะพอดี จะช่วยให้คนทำงานมีความคิดที่สร้างสรรค์มากขึ้น ทั้งเสียงดังหรือเสียงปกติต่างมีผลทำให้ความคิดของคุณเปิดกว้างขึ้น แต่ถ้าเสียงดังเกินไปก็อาจทำให้สมองทำงานได้แย่ลงได้ด้วย ดังนั้นหากต้องการให้สมองทำงานได้ดียิ่งขึ้น ในขณะที่ทำงานควรฟังเพลงในระดับความเสียงที่พอเหมาะ ซึ่งสามารถวัดได้ง่ายๆ โดยเสียงนั้นจะต้องไม่เบาจนได้ยินเสียงพูดคุย แต่ก็ไม่ควรดังจนไม่ได้ยินเสียงรอบข้างเลย

การฟังเพลงอาจช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเราได้ แต่เราก็ต้องมีสมาธิจดจ่อกับการทำงานด้วย ถ้าหากเราไม่สนใจที่จะทำงาน และยังคิดเรื่องอื่นอยู่ การฟังเพลงยังไงก็คงไม่ช่วยให้มีสมาธิทำงานอย่างแน่นอน ขอให้ฟังเพลงอย่างถูกวิธีแล้วคุณจะมีความสุขเพิ่มขึ้นในเวลาทำงานนะครับ

ที่มา : SkillLane

ชลธิช วรรณอุบล I บรรณาธิการดิจิทัล