TOP

ผลวิจัยระดับโลกชี้ Cerafusion™ เทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรคในอากาศและพื้นผิวมีประสิทธิภาพสูงถึง 99.97%

Cerafusion™ เทคโนโลยีฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวและในอากาศจากเอเชียที่ได้รับการจดสิทธิบัตรที่พัฒนาขึ้นโดยเมดด์คลินน์ ขึ้นแท่นอันดับ 1 จากการศึกษาประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรคภายในอาคาร ที่จัดโดยสถาบันวิจัยชั้นนำของเยอรมนี The Fraunhofer Institute for Building Physics (“Fraunhofer IBP”) และได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลเยอรมนี

โดยการศึกษาดังกล่าวมีชื่อว่า CineCoV Study ริเริ่มโดย SPIO ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ของเยอรมนี โดยการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยในโรงภาพยนตร์และสถานที่จัดกิจกรรมบันเทิงขนาดใหญ่เพื่อรองรับการบริการยุคนิวนอร์มอลหลังการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด19 และการศึกษานี้จัดทำโดยสถาบัน Fraunhofer IBP ซึ่งเป็นองค์กรวิจัยที่สนับสนุนโดยกระทรวงวัฒนธรรมและสื่อแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี (German Federal Government Commissioner for Culture and Media – BKM) สำหรับการศึกษาดังกล่าวได้ทดสอบประสิทธิภาพของการฆ่าเชื้อโรคภายในอาคารที่เป็นสถานที่ปิด

ผลการศึกษาชี้ว่าเทคโนโลยี Cerafusion™ มีประสิทธิภาพสูงกว่าเทคโนโลยีอื่นด้านการปรับปรุงการระบายอากาศและการฆ่าเชื้อในอากาศภายในโรงภาพยนตร์ที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ทำให้ Cerafusion™ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่ได้รับการจดสิทธิบัตร ได้รับเลือกให้ใช้ในโรงภาพยนตร์ชั้นนำ 21 แห่งทั่วเยอรมนี ทางด้านของ ดร. คิง ยอง จิน ประธาน ASHRAE Malaysia Chapter (MASHARAE) ศ.ออง ชิง ลุน อดีตประธาน และศ.เชง เทียม เหลียง ประธานกรรมการเฉพาะกิจด้านโรคระบาด ประจำมาเลเซีย เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยินดีเป็นอย่างยิ่งกับผลการศึกษานี้ และถือได้ว่าเป็นความสำเร็จระดับโลกของเทคโนโลยีจากเอเชียที่คนส่วนมากไม่ทราบมาก่อน

สำหรับนายแดเนียล ลู ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีและนวัตกรรม เมดด์คลินน์ กรุ๊ป กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมาได้มีการนำเทคโนโลยี Cerafusion™ ไปใช้ในโรงภาพยนตร์ 21 แห่งของ 6 เครือโรงภาพยนตร์ ซึ่งมีจำนวนที่นั่งรวม 2,274 ที่นั่งทั่วเยอรมนี ได้แก่ เครือ Cincinnati Cinema (400 ที่นั่ง) Neues Rex Cinema (170 ที่นั่ง) และ Rottmann Cinema (120 ที่นั่ง) ในเมืองมิวนิคและบาวาเรีย รวมถึงโรงภาพยนตร์อีก 3 แห่งในเมืองแมร์เซอเบิร์ก (Mersberg) ได้แก่ Straubing (597 ที่นั่ง) Sinsheim (487 ที่นั่ง) และ Domstadt Kino (500 ที่นั่ง) นอกจากนี้โรงภาพยนตร์ในเยอรมนีได้พยายามเพิ่มความปลอดภัยและสุขอนามัยหลังจากพ้นช่วงการระบาดหนักของโรคโควิด19 แล้วแต่ยังคงต้องมีการเฝ้าระวังอยู่ เพื่อให้มั่นใจว่าผู้ชมทั่วประเทศจะมีความปลอดภัยสูงสุดเมื่อเข้าชมภาพยนตร์ 

“โรงภาพยนตร์ในเยอรมนีได้กำหนดมาตรการเกี่ยวกับสุขอนามัยและความปลอดภัยต่าง ๆ ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะ การจำกัดจำนวนผู้เข้าชม รวมทั้งการเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายอากาศ อย่างไรก็ดี SPIO ซึ่งเป็นองค์กรหลักของกลุ่มอุตสาหกรรมโรงภาพยนตร์เห็นว่ามาตรการเหล่านี้ยังไม่เพียงพอที่จะลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ “ดังนั้น SPIO กระทรวงวัฒนธรรมและสื่อแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี จึงได้มอบหมายให้สถาบัน Fraunhofer Institute ศึกษาและประเมินประสิทธิภาพของเทคโนโลยี 2 ชนิดที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสชนิดแพร่กระจายในอากาศ ได้แก่ เทคโนโลยี CerafusionTM Sterilization Technology และ Upper UVC พร้อมระบบระบายอากาศทั่วไป “

ผลการศึกษานี้ชี้ชัดว่า เทคโนโลยี Cerafusion™ Air Sterilization Technology จากเมดด์คลินน์ มีประสิทธิภาพสูงกว่าในการลดปริมาณเชื้อไวรัสในอากาศได้อย่างรวดเร็ว” ดังนั้นแล้วสถาบัน Fraunhofer Institute จึงใช้โรงภาพยนตร์ Cincinnati ในเมืองมิวนิคเป็นสถานที่ทดสอบ และผลปรากฎว่าเทคโนโลยี Cerafusion™ มีประสิทธิภาพในการลดปริมาณเชื้อไวรัสได้มากในระยะเวลาสั้น เมื่อเทียบกับระบบระบายอากาศทั่วไป ในการศึกษานี้ ได้มีการใช้ไวรัสเสมือนจริง (Surrogate virus) ชนิด enveloped Phi6 bacteriophage ซึ่งเป็นไวรัสที่มีเปลือกหุ้มของแบคทีเรีย Phi6 โดยเปรียบเทียบประสิทธิภาพของเทคโนโลยี Cerafusion™ กับระบบระบายอากาศทั่วไปในการกำจัดเชื้อดังกล่าว ผลการศึกษาชี้ว่า Cerafusion™ สามารถลดปริมาณไวรัสในอากาศได้ถึง 99.97%

นายลูกล่าวเสริมว่า ผลการศึกษานี้สะท้อนความสำเร็จก้าวใหม่ของ Cerafusion™ เนื่องจากก่อนหน้านี้ HygCen Germany ได้ทำการศึกษาและชี้ว่า Cerafusion™ สามารถลดปริมาณไวรัสในอากาศได้ถึง 99% ในเวลา 10 นาที “ผลการศึกษาเหล่านี้เป็นเครื่องพิสูจน์ประสิทธิภาพของเทคโนโลยี Cerafusion™ ในการกำจัดเชื้อไวรัสที่แพร่กระจายในอากาศได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย การศึกษาทั้งสองชิ้นจัดทำโดยใช้เทคโนโลยีกำจัดเชื้อโดยใช้โอโซนในระดับต่ำและมีการควบคุมด้านความปลอดภัยและสุขอนามัยอย่างดีตามมาตรฐาน”

สำหรับในประเทศมาเลเซีย มีการใช้เทคโนโลยี Cerafusion™ Sterilization Technology ของเมดด์คลินน์ ในสถานที่ต่างๆ เช่น Aurum Theatre, The Gardens Mall ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ และ Aurum Theatre, The Mall, Mid Valley Southkey ในยะโฮร์บารู นอกจากนี้เครือโรงภาพยนตร์ GSC กำลังจะนำเทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวนี้ไปใช้ในอีกหลายแห่งเพื่อให้ผู้ชมได้สัมผัสประสบการณ์ที่ดีและมีสุขอนามัยที่ระหว่างการชมภาพยนตร์

ดร.คิง ยอง จิน พร้อมด้วย ศ.ออง ชิง ลุน และศ.เชง เทียม เหลียง ซึ่งเป็นวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่สนใจด้านคุณภาพอากาศภายในอาคาร ย้ำว่า เรามีความจำเป็นที่ต้องนำเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพสูงมาใช้ให้เร็วที่สุดเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส ดร.ลู กล่าวเสริมว่า “การศึกษานี้ ให้ความสำคัญกับปัจจัยหลายด้านที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของอากาศภายในอาคาร และเทคโนโลยีที่ใช้โอโซนระดับต่ำนี้สามารถตอบโจทย์ที่เข้มงวดของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมของเยอรมนี รวมทั้งสามารถใช้ได้อย่างปลอดภัยในบริเวณที่มีประชาชนอยู่”

นายยอร์ก ทัตเทิลแมน ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการบริษัท เมดด์คลินน์ เยอรมนี กล่าวว่า Cerafusion™ เป็นเทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและลดการใช้ทรัพยากร ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ ยังมีการเริ่มนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอื่น ๆ เช่น อุตสาหกรรมอาหาร โรงแรม ร้านอาหาร ฟิตเนส และสำนักงาน นายกฤษณ์ กนกวลีวงศ์ ซีอีโอ บริษัท เมดด์คลินน์ ประเทศไทย และกรรมการบริษัท

คีธ แอนด์ คิม คอนเซ็ปต์ กล่าวว่า “เราภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของเมดด์คลินน์ เพราะ Cerafusion™ ถือได้ว่าเป็นเทคโนโลยีที่มีความยั่งยืน และได้รับการพิสูจน์แล้วจากการใช้งานในสภาพแวดล้อมจริง สำหรับในประเทศไทย เทคโนโลยีนี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยลูกค้าของเราส่วนใหญ่จะเป็นองค์กรในธุรกิจเฮลท์แคร์ โรงแรม และร้านอาหาร และมีแนวโน้มว่าจะมีองค์กรในธุรกิจอื่น ๆ เพิ่มมาอีกในอนาคต”

มร. ลู กล่าวสรุปว่า “เราภูมิใจทีได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีชั้นนำจากเอเชียออกไปสู่ตลาดโลก การที่ธุรกิจหลายประเภทในเยอรมนีเลือกใช้เทคโนโลยีนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความไว้วางใจและเชื่อมั่นในเทคโนโลยีของเรา เมดด์คลินน์จะยังคงเดินหน้าขยายตลาดทั่วยุโรปและภูมิภาคอื่น ๆ ทั่วโลกอย่างไม่หยุดยั้ง” “นอกจากนี้การที่เราได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากในระดับโลก ถือเป็นแรงบันดาลใจที่ดีมาก ผลการศึกษาของสถาบัน Fraunhofer IBP และการศึกษาอิสระอื่น ๆ ต่างก็ย้ำว่าเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวแบบที่ใช้โอโซนระดับต่ำนี้มีความปลอดภัยมาก และไม่ส่งผลกระทบเชิงลบ ซึ่งเป็นสิ่งที่เมดด์คลินตอกย้ำตลอดหลายปีที่ผ่านมา”

ดร. เชน มีความเชื่อมั่นว่าในอนาคตเทคโนโลยีการฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวด้วยโอโซนระดับต่ำจะเป็นทางเลือกที่มีความยั่งยืน “การแพร่ระบาดของโควิด19 ทำให้องค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญในการรักษามาตรฐานด้านสุขอนามัย และการใช้เทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศและพื้นผิวที่วางใจได้และมีประสิทธิภาพด้านต้นทุน ซึ่งทำให้ความต้องการเทคโนโลยีดังกล่าวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

เมดด์คลินน์ อินเตอร์เนชั่นแนล ได้สร้างความตระหนักถึงประสิทธิภาพของเทคโนโลยีฆ่าเชื้อในอากาศและด้วยโอโซนระดับต่ำของเทคโนโลยี Cerafusion™ อย่างต่อเนื่อง โดยเน้นประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตลอด 17 ปีที่ผ่านมา ความพยายามนี้สะท้อนจุดยืนของเมดด์คลินน์ในการลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย และหันมาใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยเพื่อยกระดับสุขอนามัยของประชาชนแทน

พชรรัชต์ ลิขิต I Content Creator