TOP

หอมกลิ่นความกตัญญูชั่วนิรันดร์ ของพ่อหลวง รัชกาลที่ 9

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ พ่อหลวงของปวงชนชาวไทยที่ทรงงานหนักที่สุดในโลก ในหลวงที่ทรงดำรงชีวิตแบบเรียบง่ายที่สุดในโลก กษัตริย์ที่ประชาชนรักและเทิดทูนมากที่สุดในโลก คือ “พ่อหลวง” ที่อยู่ในใจของพวกเราเสมอมา องค์มหาราชผู้ทรงเป็นต้นแบบให้เราเดินตามรอยเบื้องพระยุคลบาทในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทรงงานหนัก เพื่อปวงประชาราษฎร์ของพระองค์ โครงการต่างๆ มากมายที่พระองค์ทรงสร้าง พัฒนา และต่อยอดให้เป็นสมบัติของประเทศ ด้วยทรงห่วงใยประชาชน แม้แต่การเสียสละความสุขส่วนพระองค์ เพื่อประชาชนอยู่ดีกินดี ทรงเป็นต้นแบบทางการใช้ชีวิตและความมัธยัสถ์ด้วยปรัชญา “เศรษฐกิจพอเียง” ที่สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้จริง และสุขอย่างพอเพียง จนเป็นที่ยอมรับในพระปรีชาสามารถจากทั่วทุกมุมโลก ทรงเป็นต้นแบบแห่งการศาสตร์และศิลป์ทุกแขนง และยังทรงเป็นต้นแบบแห่งความดีงาม ความรัก ความกตัญญู ที่จับใจพวกเราอย่างที่สุด

แม้พระวรกายของพระองค์ท่านจะไม่อยู่ แต่พระองค์ยังอยู่กับเราเสมอ พระบรมราโชวาท พระราชดำรัส ซึ่งเป็นคำสอนของพ่อหลวง ที่พระองค์ได้ฝากไว้ให้พวกเราได้ดำเนินรอยตามคำสอนของพ่อ และอีกหลายเรื่องราวที่เราอาจยังไม่เคยรู้มาก่อน

ในขณะที่พระองค์ทรงมีพระชนม์ชีพ ในหลวง รัชกาลที่ 9 ของเราทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจด้วยพระวิริยะอุตสาหะ สมกับความเคารพรักของพสกนิกร ที่ยกให้พระองค์เป็นพ่อหลวงของแผ่นดิน ขณะเดียวกันพระองค์ก็มีบทบาทของพระราชบิดา ที่ต้องดูแลสมาชิกราชวงศ์ และบทบาทของพระราชโอรสที่ต้องดูแลใส่พระราชหฤทัย สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (สมเด็จย่า) อย่างดีที่สุดในเวลาเดียวกันในช่วงเวลาที่ผ่านมา

แม้พระองค์จะทรงมีพระราชภารกิจอันใหญ่หลวงในการดูแลทุกข์สุขราษฎร ทรงเดินทางไปทั่วทุกที่ทั่วประเทศเพื่อปัดเป่าทุกข์บำรุงสุข แต่พระองค์ไม่เคยทรงละเลย หน้าที่ของ “ลูก” ที่พึงปฏิบัติต่อ “แม่” เลยแม้แต่น้อย ภาพในหลวงที่ทรงประคองแม่ (สมเด็จย่า) กอดแม่ หอมแก้ม เป็นภาพสุดประทับใจที่ได้ถูกเผยแพร่ไปทั่วโลก ให้เราปวงชนชาวไทยได้มีรอยยิ้มปริ่มน้ำตาด้วยความปิติสุข ความรักศรัทธาในพระองค์ท่านอย่างล้นพ้น ภาพเหล่านี้ยังเป็นเครื่องเตือนใจประชาชนทุกคน อย่าได้หลงลืมว่าทุกคนมีหน้าที่ในฐานะ “ลูก” เช่นเดียวกับพระองค์ ให้ได้ย้อนกลับมามองดูตัวเองว่าได้ทำหน้าที่ลูก ดีแล้วหรือยัง

เนื่องในโอกาส “วันพ่อแห่งชาติ” ตรงกับวันที่ 5 ธันวาคมของทุกปี ซึ่งเป็นวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในหลวง รัชกาลที่ 9

 

AROUND ขอน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ อันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตากรุณา ที่มีต่อพสกนิกรชาวไทยนานัปการ และขอเทิดพระเกียรติ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้วยเรื่องราวของกษัตริย์ผู้ทรงเป็นต้นแบบความรัก ความกตัญญู โดยขอหยิบยกบทความบางช่วงบางตอนของ หนังสือ “พระมหากษัตริย์ยอดกตัญญู” เนื้อเรื่องโดย พันเอก (พิเศษ) ทองคำ ศรีโยธิน ที่ได้จัดพิมพ์เพื่อเผยแพร่เป็นธรรมทาน ในโอกาสพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ ในหลวงรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2560 โดยมูลนิธิร่วมจิตต์น้อมเกล้าฯ เพื่อเยาวชนในพระบรมราชินูปถัมภ์ มาเล่าอีกครั้ง เพื่อให้เห็นว่า พ่อหลวงทรงเป็นต้นแบบอย่างแท้จริง ในการปฏิบัติต่อผู้อันเป็นที่รักยิ่งดั่งดวงใจ ทำหน้าที่ของลูกที่มีความกตัญญูกตเวทีต่อบุพการีอย่างไร แม้จะเป็นเพียงบางเสี้ยวบางตอนของหนังสือก็ตาม

พ.อ. พิเศษ ทองคำ ศรีโยธิน อดีตหัวหน้าอนุศาสนาจารย์แห่งกองทัพบกแห่งราชอาณาจักรไทย ได้บรรยายไว้ได้อย่างซาบซึ้งกินใจให้ลูกๆ ทุกคน ที่ได้รู้กันอยู่แล้วว่า ความหวังของแม่ที่มีต่อลูก มี 3 หวัง คือ

‘ยามแก่เฒ่า หวังเจ้า เฝ้ารับใช้

ยามป่วยไข้ หวังเจ้า เฝ้ารักษา

เมื่อถึงยาม ต้องตาย วายชีวา

หวังลูกช่วย ปิดตา เมื่อสิ้นใจ’

 

ยามแก่เฒ่า หวังเจ้า เฝ้ารับใช้

“หอมความกตัญญู”

ใครเคยเห็นภาพที่สมเด็จย่าเสด็จฯ ไปในที่ต่างๆ แล้วมีในหลวงทรงประคองเดินไปตลอดทาง เคยเห็นไหม? ตอนที่สมเด็จย่าเสด็จฯ ไปไหนเนี่ย มีคนเยอะแยะ มีทหาร มีองครักษ์ มีพยาบาล ที่คอยประคองสมเด็จย่าอยู่แล้ว แต่ในหลวงทรงตรัสว่า “ไม่ต้อง คนนี้เป็นแม่เรา เราประคองเอง”, “ตอนเล็กๆ แม่ประคองเรา สอนเราเดิน หัดให้เราเดิน เพราะฉะนั้น ตอนนี้แม่แก่แล้ว เราต้องประคองแม่เดินเพื่อเทิดพระคุณท่าน ไม่ต้องอายใคร” เป็นภาพที่ประทับใจมาก เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ท่านกตัญญูต่อแม่ ประคองแม่เดิน ประชาชนที่มาเฝ้าฯ รับเสด็จสองข้างทางยกมือขึ้นสาธุ แซ่ซ้อง สรรเสริญ กษัตริย์ยอดกตัญญู

อีกตอนหนึงกล่าวว่า…หลังจากงานพระบรมศพสมเด็จย่าเสร็จสิ้นลงแล้ว ราชเลขาฯ ของสมเด็จย่ามาแถลงในที่ประชุมต่อหน้าสื่อมวลชนว่า “ก่อนสมเด็จย่าจะสิ้นประชนม์ปีเศษ ตอนนั้นอายุ 93 ในหลวงเสด็จฯ จากวังสวนจิตรลดา ไปวังสระปทุมตอนเย็นทุกวัน ไปทำไมครับ ไปกินข้าวกับแม่ ไปคุยกับแม่ และทำให้แม่ชุ่มชื่นหัวใจ เสด็จฯ ไปกินข้าวมื้อเย็นกับแม่ สัปดาห์ละกี่วันทราบไหมครับ สัปดาห์ละ 5 วัน ใครเคยเห็นภาพสมเด็จย่าหอมแก้มในหลวงบ้าง ตอนสมเด็จย่าหอมแก้มในหลวง อาจารย์คิดว่า แก้มในหลวงคงไม่หอมเท่าไหร่ เพราะไม่ได้ใส่น้ำหอม แต่ทำไม สมเด็จย่าหอมแล้ว “ชื่นใจ” เพราะท่านได้กลิ่นหอมจากหัวใจในหลวง “หอมความกตัญญู” ตัวแม่เอง สมเด็จย่า ไม่ได้เป็นเชื้อพระวงศ์ แต่เป็นคนธรรมดาสามัญชน เป็นเด็กหญิงสังวาลย์ แต่ในหลวงเกิดมาเป็นพระองค์เจ้า เป็นลูกเจ้าฟ้า ปัจจุบันเป็นกษัตริย์ เป็นพระเจ้าแผ่นดิน แต่ในหลวงที่เป็นพระเจ้าแผ่นดิน ก้มลงกราบคนธรรมดาที่เป็นแม่

ยามป่วยไข้ หวังเจ้า เฝ้ารักษา

“เลี้ยงหัวใจแม่”

ดูในหลวงทรงทำกับแม่ยังไง?

สมเด็จย่าประชวรอยู่ที่โรงพยาบาลศิริราช ในหลวงฯ เสด็จไปเยี่ยมแม่ตอนตี 1 ตี 2 ตี 4 เศษๆ จึงเสด็จฯ กลับ ทรงไปเฝ้าแม่วันละหลายชั่วโมง แม่พอเห็นลูกมาเยี่ยม ก็หายป่วยไปครึ่งหนึ่งแล้ว กลางคืน ในหลวงเสด็จฯ ไปอยู่กับสมเด็จย่าคืนละหลายชั่วโมง ไปให้ความอบอุ่นทุกคืน นี่คือสิ่งที่ในหลวงทำ  คราวหนึ่งในหลวงป่วย สมเด็จย่าก็ป่วย ไปอยู่ศิริราชด้วยกัน อยู่คนละมุมตึก ตอนเช้าในหลวงทรงเปิดประตูออกมา พยาบาลกำลังเข็นรถสมเด็จย่าออกมารับลม ผ่านหน้าห้องพอดี ในหลวงพอเห็นแม่ รีบออกจากห้องมาแย่งพยาบาลเข็นรถ มหาดเล็กกราบทูลว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องเข็น มีพยาบาลเข็นให้อยู่แล้ว ในหลวงมีรับสั่งว่า “แม่เรา ทำไมต้องให้คนอื่นเข็น เราเข็นเองได้” นี่ขนาดเป็นพระเจ้าแผ่นดิน เป็นกษัตริย์ ยังมาเดินเข็นรถให้แม่ ยังมาป้อนข้าวให้แม่ ป้อนยาให้แม่ ให้ความอบอุ่นแก่แม่ “เลี้ยงหัวใจแม่”

เมื่อถึงยาม ต้องตาย วายชีวา หวังลูกช่วย ปิดตา เมื่อสิ้นใจ

“ชีวิตลูกแม่ปั้น”

วันนั้น ในหลวงเฝ้าสมเด็จย่าอยู่จนถึงตี 4 ตี 5 เฝ้าแม่อยู่ทั้งคืน จับมือแม่ กอดแม่ จนกระทั่งแม่หลับจึงเสด็จฯ กลับ พอไปถึงวัง เขาโทรศัพท์มาแจ้งว่า สมเด็จย่าสิ้นพระชนม์ ในหลวงรีบเสด็จฯ กลับไปศิริราช เห็นสมเด็จย่านอนหลับอยู่บนเตียง ในหลวงตรงเข้าไปคุกเข่า กราบลงที่อกแม่ พระพักตร์ในหลวงตรงกับหัวใจแม่ “ขอหอมหัวใจแม่เป็นครั้งสุดท้าย” ซบหน้านิ่งอยู่นาน แล้วค่อยๆ เงยพระพักตร์ขึ้น น้ำพระเนตรไหลนอง ต่อจากนี้จะไม่มีแม่ให้หอมอีกแล้ว เอามือมากุมมือแม่ไว้ มือนิ่มๆ ที่ไกวเปลนี่แหละ ที่ปั้นลูกจนได้เป็น “กษัตริย์” เป็นที่รักของคนทั้งบ้านทั้งเมือง “ชีวิตลูกแม่ปั้น” มองเห็นหวีปักอยู่ที่ผมแม่ ในหลวงจับหวี ค่อยๆ หวีผมให้แม่ หวี หวี หวี หวี ให้แม่สวยที่สุด แต่งตัวให้แม่ ให้แม่สวยที่สุด ในวันสุดท้ายของแม่ เป็นภาพที่น่าประทับใจที่สุด เป็นสุดยอดของลูกกตัญญู หาที่เปรียบไม่ได้อีกแล้ว

เมื่อหันกลับมาที่ครอบครัว ทุกคนมีสถานะที่ต่างไปในวัยที่ต่างกัน แต่แน่นอนว่าทุกคนเกิดมา จะมีสถานะที่เป็น “ลูก” มีพ่อแม่ผู้ให้กำเนิดที่ต้องตอบแทนคุณ และดูแลยามท่านเจ็บป่วย แก่ตัว และวาระสุดท้ายของชีวิต หลายคนมีสถานะของความเป็น “พ่อ” ของลูก ซึ่งก็จะเข้าใจหัวอกพ่อและแม่ของตัวเองมากขึ้น ยามเมื่อใดที่ได้อยู่ในสถานะเดียวกัน

 

เครดิตภาพประกอบ : Jukkrid Chaipidech (ภาพเขียนทรงงาน) | ภาพ Cover โดย คุณชำนาญ เภาเสน

ภาพจากเพจเฟสบุ๊ก : ฟรีไฟล์ภาพพระบรมฉายาลักษณ์

 

 

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด