Manama (เมืองหลวงปัจจุบันของ Bahrain) คือจุดมุ่งหมายปลายทางในการเดินทางในครั้งนี้ และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่จินต์ และพวกเรา Matara ทั้ง 3 คนได้ไปเที่ยวที่ประเทศนี้ เพราะครั้งแรกที่ได้เดินทางมาที่บาห์เรนนั้น เดินทางมาพร้อมกับกระทรวงวัฒนธรรมเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เพื่อมาออกบูธในความสัมพันธ์ระหว่างไทย–บาห์เรน ประเทศทั้งสองมีความคล้ายกันอยู่หนึ่งเรื่องคือ เป็นประเทศที่ทรงมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข Kingdom of Bahrain จึงมีความสัมพันธ์อันดีงามกับ Kingdom of Thailand

การเดินทางกลับไปในครั้งนี้มันช่างวิเศษเหลือเกิน เพราะจุดหมายปลายทางคือดินแดนที่เต็มไปด้วยแรงบันดาลใจให้กับเรา เต็มไปด้วยประวัติศาสตร์ที่เข้มข้น เพราะ Bahrain Gulf คืออ่าวและท้องทะเลแห่งไข่มุกธรรมชาติแท้บริสุทธิ์ ซึ่งมีค่าต่อจิตใจของพวกเราทั้ง 3 คนที่ทำ Matara มาก ดินแดนบาห์เรนที่เป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์เครื่องประดับระดับโลก ในภาพประวัติศาสตร์ที่เจ้าของแบรนด์ Cartier เคยนั่งเจรจามาซื้อไข่มุกธรรมชาติแท้เกิดขึ้นจากที่แห่งนี้ สถานที่นี้มีเรื่องราวให้น่าศึกษา และเต็มไปด้วยอดีตที่น่าค้นหาตลอดการเดินทาง

เดือนกรกฎาคม 2565 บรรยากาศของมาตรการต่าง ๆ ของโควิดได้ผ่อนคลายลง การเดินทางได้กลับมาเริ่มเปิดกันอย่างคึกคัก รวมถึงความสัมพันธ์ทางการฑูตของประเทศไทยกับประเทศซาอุดิอาระเบีย ได้กลับมารื้อฟื้นหลัง 30 กว่าปีที่หยุดเงียบ และประเทศบาห์เรน คือจุดมุ่งหมายปลายทางของการเดินทางในครั้งนี้ ซึ่งอยู่ติดกับประเทศซาอุดิอาระเบีย ความวุ่นวายจึงเริ่มต้นตั้งแต่ยังไม่ได้เดินทาง ตั้งแต่การจองตั๋วเครื่องบิน การจองโรงแรมที่เรียกได้ว่าไฟล์ทแน่น ราคาโรงแรมปรับตัวสูงขึ้น รวมถึงช่วงที่เดินทางไปเป็นช่วงเทศกาล Eid ที่ถือเป็นวันหยุดศาสนา และกลายเป็นช่วงเวลาของครอบครัวที่เฉลิมฉลองร่วมกัน การเดินทางวันจริงจึงเป็นไปตามคาดการณ์ คือทุกที่นั่งบนเครื่องบินเต็มไปด้วยคนอาหรับโดยเฉพาะคนซาอุ เพราะไม่มีไฟล์ทตรงไปประเทศซาอุดิอาระเบีย ส่วนใหญ่จึงต้องนั่งเครื่องผ่านประเทศบาห์เรน ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี เมื่อถึงสนามบินรับรู้ได้ถึงความทันสมัยของ Terminal ใหม่ของสนามบินที่ต้อนรับเราอยู่ รถจากโรงแรมมารับและพาพวกเราส่งถึงที่พักในคืนแรกด้วยความสะดวกสบาย 

จินต์นั้นมีนัดกับเพื่อนที่บ้านพักตากอากาศ ซึ่งมีลักษณะเป็นโครงการที่อยู่อาศัยคล้าย The Palm ของดูไบ ที่ทำพื้นที่โครงการเพิ่มขึ้นมาบนท้องทะเล ซึ่งเปิดดูแผนที่คือปลายสุดของประเทศ ใช้ระยะเวลาในการนั่งรถจากตัวเมือง Manama ส่วนบนของประเทศเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงนิด ๆ เท่านั้น ดังนั้นเราจึงทราบว่าประเทศนี้มีขนาดเล็ก ไปไหนมาไหนใช้เวลาไม่มาก รวมไปถึงการขับรถไปประเทศที่ติดกันอย่างซาอุดิอาระเบีย ก็ใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น จากตัวเมือง Manama ประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศพูดและสามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้ ผู้คน Friendly และมีความสัมพันธ์ที่ดีกับคนไทย

นอกจากการเที่ยวในครั้งนี้ที่เปลี่ยน 3 โรงแรม แบบ Hotel Hopping แล้ว การไปรับประทานอาหาร และ Cafe Hopping ตามจุดต่าง ๆ ก็เป็นสิ่งที่เตรียมตัวมาตั้งแต่ต้น เริ่มหาลิสต์ร้านอาหารหรือร้านขนมที่มีการตกแต่งอย่างสวยงาม คนที่นี่จะรับประทานมื้อเที่ยงกันบ่าย 2 และมื้อเย็นในช่วงดึก ส่วนวันศุกร์ เสาร์ คือวันหยุดประจำสัปดาห์ เริ่มทำงานวันอาทิตย์ นี่คือความต่างด้านวัฒนธรรมที่จินต์คิดว่าควรทราบ ถ้าจะมาทำธุรกิจหรือติดต่องานที่นี่

การเลือกที่พักในครั้งนี้ เลือกแบ่งตาม Location และโรงแรมที่อยากพัก เช่น ช่วง 2 คืนแรกเลือกที่จะอยู่โรงแรมในเมือง การตกแต่งโมเดิร์นเป็น Serviced apartment 5 ดาว และย้ายไปอีก 2 คืน ที่ Zallaq ที่ต้องขับรถออกนอกเมือง 20-30 นาที มีทะเลและการตกแต่งเป็นกึ่ง Safari Resort สีคุมโทน คือสีเบจ ได้ภาพสวยแบบอาหรับ โรงแรมสุดท้ายกลับมาพักที่เมืองอีกครั้ง แต่โรงแรมนี้มีความโดดเด่นเรื่องชายหาด สระว่ายน้ำ ร้านอาหารหรูหราหลายห้องอาหาร การบริการ 6 ดาว และมีการตกแต่งของห้องนอนแบบ Luxury French Style ทุกโรงแรมที่ไปชอบและตอบโจทย์ที่แตกต่างกัน ทำให้การเดินทางมีสีสันมากยิ่งขึ้น 

จบท้ายด้วย highlight ของทริปนี้ คือการไปเรียน History of Pearl Fishing ที่จัดโดย DANAT Institution เป็นองค์กรที่มีเพื่อทดสอบและออกใบ Certificate ไข่มุก การเรียนเป็นคลาสที่จัดขึ้นพิเศษเพื่อกรุ๊ปเราเท่านั้น หลังจากเรียนจบทำให้พวกเราทึ่ง และเห็นคุณค่าของไข่มุกธรรมชาติมากขึ้นไปอีก จนเปลี่ยนจากความชอบเป็นความหลงใหลที่มีต่ออัญมณีธรรมชาตินี้ยิ่งขึ้นไปอีก เพราะความที่ว่ามีจำนวนจำกัด (ปัจจุบันมีเพียง 0.2% ของไข่มุกทั่วโลกเป็นไข่มุกธรรมชาติแท้) จึงเป็นจุดกำเนิดไอเดียที่พวกเราจะสร้าง Matara Natural Pearl Hub in Asia เพื่อทำให้มาดามที่ปกติชอบเครื่องประดับไข่มุกอยู่แล้ว หันกลับมาให้ค่ากับไข่มุกแท้ที่ Unique จริง ๆ และเกิดขึ้น 100% จากธรรมชาติโดยไม่ใช้ความรู้ของคนเข้าไปเลี้ยง หรือดูแลใด ๆ ซึ่งทำให้ไข่มุกธรรมชาตินี้มีความหมาย ที่แตกต่างต่อจิตใจของผู้ครอบครองมากกว่ามองที่ขนาด หรือความสวยงามแบบ Perfect อย่างไข่มุกในท้องตลาดจิลเวลรีส่วนใหญ่ของโลก

OUR STORY

คุณจงจินต์ จึงสุระ
หนึ่งในผู้ก่อตั้งแบรนด์ มธรา (Matara)
Instagram: @realjongjin
Facebook: SuperJin Jongjin