TOP

‘โอริส’ ประดิษฐกรรมเรือนเวลารุ่นใหม่ ‘Whale Shark Limited Edition’ ร่วมอนุรักษ์ฉลามวาฬและท้องทะเล

พันธกิจของ “โอริส” ในการนำการเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้นมาสู่ระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อนของโลก ด้วยประดิษฐกรรมแห่งเวลาที่เน้นย้ำถึงภัยคุกคามต่อปลาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในมหาสมุทร นั่นคือ ฉลามวาฬ อันงดงาม 

 

กลับสู่ห้วงลึกแห่งมหาสมุทร

พันธกิจของโอริส ในการนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น เกิดจากความเชื่อมั่นว่าเราต้องลงมือทำตั้งแต่ตอนนี้ เพื่อฟื้นฟูและปกป้องระบบนิเวศที่ละเอียดอ่อนของโลก สิ่งมีชีวิตที่เราพบเห็นได้ส่วนใหญ่คือที่อยู่บนบก ด้วยเหตุนี้เราจึงใช้เวลายาวนานขึ้นในการสำรวจ และทำความเข้าใจมหาสมุทรของโลก แต่ในทุกๆ ปีเมื่อเวลาผ่านไปภาพก็จะชัดเจนขึ้น ตัวอย่างเช่น ในตอนนี้เราทราบแล้วว่ามหาสมุทรครอบคลุมสามในสี่ส่วนของพื้นผิวโลก ประกอบด้วยน้ำ 97% ของโลก และคิดเป็น 99% ของพื้นที่อยู่อาศัยบนโลกตามปริมาตร

 

หลักฐานยังแสดงให้เราเห็นว่า มหาสมุทรช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ประมาณ 30% ของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เราผลิตได้ ชดเชยผลกระทบของภาวะโลกร้อน จากข้อมูลขององค์การสหประชาชาติระบุว่า ประชากรมากกว่าสามพันล้านคน ต้องพึ่งพามหาสมุทรในการดำรงชีวิต และไม่น่าเชื่อว่ามูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ หรือ 5% ของ GDP โลก เกิดจากอุตสาหกรรมทางทะเลและชายฝั่ง มหาสมุทรจึงเป็นแหล่งกำเนิดของชีวิต

อย่างไรก็ตามเรายังคงทำร้ายมหาสมุทรของเรา ด้วยระดับมลพิษในขณะนี้อยู่ในระดับวิกฤต (โดยเฉพาะพลาสติกที่องค์การสหประชาชาติประเมินว่า มีการจำหน่ายขวดพลาสติกหนึ่งล้านขวดต่อนาที) และอุณหภูมิของมหาสมุทรก็สูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งนำไปสู่เหตุการณ์ต่างๆ เช่น การฟอกขาวของปะการัง ตามที่ได้เน้นย้ำโดยโอริสในรุ่นก่อนหน้านี้

 

สิ่งที่น่ากังวลก็คือ จากข้อมูลของสถาบันเพื่อความรู้และการศึกษาวิจัย Smithsonian Ocean Portal พบว่าปัจจุบันมีสิ่งมีชีวิตจำนวนมากถึง 2,270 ชนิด ที่ถูกระบุว่าเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์หรือถูกคุกคาม ภายใต้รัฐบัญญัติสิ่งมีชีวิตใกล้สูญพันธุ์ของสหรัฐอเมริกา หนึ่งในนั้นคือ “ฉลามวาฬ” ซึ่งเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทร และเป็นหัวใจสำคัญของ Oris Whale Shark Limited Edition ประดิษฐกรรมเรือนเวลารุ่นใหม่ ที่รังสรรค์ขึ้นเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจ ในการนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น และเพื่อช่วยทำความสะอาด ฟื้นฟู และปกป้องน้ำของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เป็นการจัดทำขึ้นเพื่อสนับสนุนการทำงานของแอมบาสเดอร์ของโอริส เจอราร์โด เดล วิลลาร์ (Gerardo del Villar) นักสำรวจและช่างภาพมากประสบการณ์ ซึ่งเริ่มถ่ายภาพฉลามวาฬ เมื่อกว่า 15 ปีที่ผ่านมา

 

“เราจะไม่หยุดที่จะชี้ให้เห็นถึงปัญหาที่โลกกำลังเผชิญอยู่” รอล์ฟ สตูเดอร์ (Rolf Studer) Co-CEO ของโอริสกล่าว “เราภูมิใจที่ได้ร่วมงานกับ “เจอราร์โด” และสนับสนุนงานของเขา แต่นี่เป็นเพียงแค่สิ่งที่เล็กน้อยมากๆ เพื่อทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น ทุกคนต้องมีส่วนร่วม”

-||-

 

ยักษ์ใหญ่ที่อ่อนโยน

ฉลามวาฬสามารถเติบโตได้เท่ากับความยาวของรถบัส ในขณะที่กินเพียงปลาตัวเล็กๆ เป็นอาหารเท่านั้น แต่อนาคตของสิ่งมีชีวิตที่น่าสนใจชนิดนี้กำลังตกอยู่ในอันตรายร้ายแรง

 

ชื่อที่น่าสับสน ‘วาฬ’ หรือ ‘ฉลาม’?

นักวิทยาศาสตร์อธิบายว่าฉลามวาฬเป็นปลา ไม่ใช่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเหมือนวาฬ ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขายังกล่าวว่ามันเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทร ฉลามวาฬยักษ์ใหญ่ใจดี พวกมันสามารถเติบโตเต็มที่มีความยาวมากกว่า 40 ฟุต และมีน้ำหนักมากกว่า 20 ตัน ทำให้มีสัดส่วนใกล้เคียงกับรถโรงเรียนสีเหลือง พวกมันส่วนใหญ่ถูกพบในน่านน้ำทะเลเขตร้อน และเป็นที่ทราบกันดีว่า พวกมันจะอพยพไปยังไหล่ทวีปนอกชายฝั่งตะวันตกตอนกลางของออสเตรเลีย ทุกฤดูใบไม้ผลิ พวกมันกินอาหารโดยการอ้าขากรรไกรขนาดใหญ่ออก และกรองทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อกินแพลงก์ตอนและปลาตัวเล็กๆ ทำให้พวกมันเป็นหนึ่งในสามสายพันธุ์ที่ใช้เทคนิคนี้ พวกมันสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ถึง 70 ปี แต่จากข้อมูลของสหภาพระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ฉลามวาฬกำลังใกล้สูญพันธุ์และจำนวนประชากรลดลง โดยในปี 2016 IUCN ได้ประกาศอย่างชัดเจนว่าประชากรฉลามวาฬทั่วโลกลดลงกว่าครึ่งหนึ่งในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา

 

สาเหตุของการลดลงในอัตราที่สูงนี้?

IUCN กล่าวว่าการทำประมงทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย การติดกับดักเครื่องมือประมง และการชนกับเรือ มีส่วนทำให้เสียชีวิตมากที่สุด กล่าวอีกนัยหนึ่งกิจกรรมของมนุษย์เป็นสิ่งที่ควรตำหนิอย่างยิ่ง

 

อะไรทำให้ฉลามวาฬมีความสำคัญ?

“ในฐานะนักล่าลำดับสูงสุด ฉลามมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศ ในการรักษาสายพันธุ์ที่อยู่ต่ำกว่าพวกมันในห่วงโซ่อาหาร และเป็นตัวบ่งชี้สุขภาพของมหาสมุทร” กล่าวโดย เจอราร์โด เดล วิลลาร์ (Gerardo del Villar) แอมบาสเดอร์ของโอริสและช่างภาพใต้น้ำ ซึ่งเคยจัดทำบันทึกภาพเกี่ยวกับฉลามวาฬมานานกว่า 15 ปี “พวกมันช่วยกำจัดปลาที่เชื่องช้า ป่วย หรือใกล้หมดอายุตามวัย และรักษาสมดุลประชากรปลาอื่นๆ จึงทำให้เกิดความหลากหลายของสายพันธุ์ หากไม่มีฉลามวาฬระบบนิเวศจะล่มสลายในอนาคต”

 

อะไรที่สามารถทำได้บ้าง?

นี่คือคำถามที่ขับเคลื่อนเจอราร์โด “เราจำเป็นต้องสร้างพื้นที่คุ้มครองทางทะเล” เขากล่าว “เราจำเป็นต้องให้ความรู้แก่ผู้คนเกี่ยวกับความสำคัญของฉลามวาฬ เราจำเป็นต้องควบคุมมลพิษในทะเล และเราจำเป็นต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ สิ่งเหล่านี้ล้วนจำเป็นต่อการอนุรักษ์สัตว์ชนิดนี้”

-||-

 

“เจอราร์โด” จะบอกเล่าเรื่องราวของเขาและพูดถึงวิสัยทัศน์ แรงบันดาลใจของเขา และวิธีที่พวกเราทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการนำมาสู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อสิ่งที่ดีขึ้น ที่จะช่วยรักษาอนาคตของฉลามวาฬ

 

 บุรุษผู้อยู่กับพันธกิจ

หลังจากถ่ายภาพพวกมันมาเป็นเวลา 15 ปี “เจอราร์โด เดล วิลลาร์” (Gerardo del Villar) แอมบาสเดอร์ของโอริส ได้นำเสนอวิธีการที่ไม่เหมือนใครในการอนุรักษ์ฉลามวาฬ

 

เจอราร์โด ช่วยแนะนำตัวเอง

สวัสดีครับ ผมชื่อ เจอราร์โด เดล วิลลาร์ เป็นนักสำรวจ ช่างภาพ และวิทยากร ผมเริ่มต้นชีวิตในฟาร์มปศุสัตว์ในรัฐ Hidalgo ประเทศเม็กซิโก ผมเป็นเด็กที่ไม่อยู่นิ่ง และครั้งหนึ่งเคยเป็นนักสู้วัวกระทิง แต่ตอนนี้ผมเป็นช่างภาพใต้น้ำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดคนหนึ่งของโลก ในเวลาปกติผมเดินทางบ่อยมาก บางครั้งเพื่อออกสำรวจ หรือกล่าวบรรยายเพื่อสร้างแรงจูงใจในการประชุมระดับนานาชาติ

 

ฉลามวาฬคืออะไร และทำไมคุณถึงหลงใหลในพวกมัน?

ฉลามวาฬเป็นปลาที่ใหญ่ที่สุดในมหาสมุทร และอยู่ในวงศ์ Rhincodontidae ยุคก่อนประวัติศาสตร์ นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าสายพันธุ์ฉลามวาฬ กำเนิดขึ้นเมื่อประมาณ 60 ล้านปีที่แล้ว ผมหลงใหลในเรื่องนี้ แต่ก็ยังสนใจในความสำคัญของมันที่มีต่อระบบนิเวศด้วย พวกมันมักถูกมองว่าเป็นยักษ์ใหญ่ที่เป็นมิตรที่สุดในมหาสมุทร เป็นเพราะธรรมชาติในความรักสงบของพวกมัน และอาหารของพวกมันที่กินแต่แพลงก์ตอนขนาดเล็ก ที่น่ากังวลคือ จำนวนประชากรฉลามวาฬทั่วโลกลดลงมากกว่า 50% ในช่วง 75 ปีที่ผ่านมา ตอนนี้พวกมันถูกบรรจุอยู่ในบัญชีแดงสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ในระดับโลก (IUCN Red List)

 

คุณติดตามพวกมันมานานแค่ไหนแล้ว?

ผมถ่ายภาพฉลามวาฬ มากว่า 15 ปีแล้ว ความหลงใหลในฉลามของผมมาจากพ่อ แม่ และปู่ของผม ซึ่งเล่าให้ผมฟังเกี่ยวกับการผจญภัยในทะเล

 

ทำไมฉลามวาฬจึงมีความสำคัญ?

ในฐานะนักล่าอันดับต้นๆ ฉลามวาฬมีบทบาทสำคัญในระบบนิเวศโดยการรักษาสายพันธุ์ที่อยู่ต่ำกว่าพวกมันในห่วงโซ่อาหาร และเป็นตัวบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของมหาสมุทร พวกมันช่วยกำจัดปลาที่อ่อนแอ ป่วย หรือใกล้หมดอายุตามวัย และเพื่อรักษาสมดุลประชากรปลาอื่นๆ จึงทำให้คงไว้ถึงความหลากหลายของสายพันธุ์ หากไม่มีฉลามวาฬระบบนิเวศจะล่มสลายในอนาคต

 

อะไรคือภัยคุกคามหลักของพวกมัน?

“ฉลามวาฬ” เป็นอาหารอันโอชะในหลายๆ ส่วนของโลก และผู้คนยอมจ่ายในราคาสูงมากสำหรับเนื้อ เหงือก น้ำมัน และครีบของพวกมันสำหรับซุปหูฉลาม ความต้องการในตลาดต่างประเทศอยู่ในระดับสูง และยังคงมีการจับปลาฉลามวาฬเพื่อตอบสนองความต้องการนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่ไม่มีการควบคุมการประมง เราต้องไม่ลืมว่าการตกปลาโดยไม่ได้ตั้งใจก็ถือเป็นภัยคุกคามเช่นกัน

 

เราจะเอาชนะภัยคุกคามเหล่านี้ได้อย่างไร?

เราจำเป็นต้องสร้างเขตพื้นที่คุ้มครองทางทะเล เราจำเป็นต้องให้ความรู้แก่ผู้คนเกี่ยวกับความสำคัญของฉลามวาฬ เราจำเป็นต้องควบคุมมลพิษในทะเล และเราจำเป็นต้องต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพของภูมิอากาศ สิ่งเหล่านี้ล้วนจำเป็นต่อการอนุรักษ์สัตว์ชนิดนี้

 

เราในฐานะพลเมืองของโลกจะมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ฉลามวาฬได้อย่างไร?  

ผมพูดเสมอว่ามี 10 สิ่ง ที่เราทำได้จากบ้านของเราเอง 1. อย่ากินซุปหูฉลาม 2. ช่วยกระจายข่าวเพื่อให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงการก่อกวนของนักล่าวาฬที่เข้าใจผิดเหล่านี้ 3. ทำความเข้าใจว่าทำไมพวกมันจึงเป็นส่วนสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล 4. เรียนรู้เกี่ยวกับสายพันธุ์ฉลามที่อยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ 5. อย่าบริโภคผลิตภัณฑ์ที่ผลิต หรือได้มาจากอวัยวะของฉลาม 6. ไม่สนับสนุนให้ซื้อของที่ระลึกที่มาจากฉลาม 7. อย่าซื้อหรือเก็บสายพันธุ์ฉลามไว้ในตู้ปลา 8. หลีกเลี่ยงการกินเนื้อฉลาม 9. ค้นหาว่ามีมาตรการใดบ้างในประเทศของคุณสำหรับการปกป้องฉลาม 10. เข้าร่วมสมาคมที่อุทิศตนเพื่อปกป้องฉลาม

 

ทำไมคุณถึงเป็นพันธมิตรกับโอริส และมันส่งผลต่องานของคุณอย่างไร?

ผมชอบในความหลงใหลของโอริส ในการดำเนินการเพื่อปกป้องระบบนิเวศทางทะเล และความทุ่มเทในการสื่อสารไปสู่ผู้คน ความร่วมมือของเราช่วยให้ผมได้เผยแพร่ข่าวสาร ถ่ายทำสารคดี จัดนิทรรศการ และอนุรักษ์สัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ อย่างเช่น ฉลามวาฬ

 

คุณกำลังจะปล่อยซีรีส์สั้นๆ กับโอริส เรื่องนี้เกี่ยวกับอะไร?

ไอเดียคือเพื่อช่วยให้ผู้คนรู้จักฉลามวาฬ ที่ยอดเยี่ยมอย่างใกล้ชิดมากขึ้น และเพื่อกระตุ้นให้พวกเขามีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ก่อนที่จะสายเกินไป

 

คุณคิดอย่างไรกับนาฬิกา?

นาฬิกาเป็นแรงบันดาลใจที่แสดงให้เราเห็นว่า แม้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากพวกเราก็ต้องเร่งดำเนินการต่อไป ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่ฉลามวาฬมีนาฬิกาเป็นของมันเอง พร้อมหน้าปัดเอฟเฟกต์ผิวหนังฉลามวาฬ แบบพิเศษ มันเหมือนเป็นการส่งข้อความถึงสัตว์ที่สวยงามชนิดนี้ ให้ยังคงแหวกว่ายไปตามวิถีทางของมันเอง

-||-

 

Whale Shark Limited Edition

Oris Whale Shark Limited Edition รังสรรค์ขึ้นบนฐานตัวเรือนนาฬิกาสำหรับนักประดาน้ำรุ่น Oris Aquis GMT และมีจำนวนจำกัด เพียง 2,016 เรือน เพื่อระลึกถึงปีแห่งการประกาศให้ฉลามวาฬเป็นจุดมุ่งหมายของ IUCN

 

รายละเอียดนาฬิกา

ตัวเรือน: สเตนเลสสตีลแบบประกอบหลายชิ้น วงแหวนขอบหน้าปัดเซรามิคสีน้ำเงินและสีดำ (กลางวัน/กลางคืน) แบบหมุนได้สองทิศทาง พร้อมสเกล GMT

ขนาด: 43.50 มม (1.713 นิ้ว)

หน้าปัด: สีน้ำเงิน สลักลวดลายแพทเทิร์นพิเศษที่ได้แรงบันดาลใจจากผิวหนังฉลาม

วัสดุเรืองแสง: เข็มนาฬิกา และขีดบอกเวลา เคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova®

กระจกหน้าปัด: แซฟไฟร์ โค้งรูปโดมทั้งสองด้าน เคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนด้านใน

ฝาหลัง: สเตนเลสสตีล ขันสกรู สลักสัญลักษณ์พิเศษ

ปุ่มปรับตั้งเวลา: เม็ดมะยมนิรภัยสเตนเลสสตีลแบบขันเกลียว

สายนาฬิกา: สายสเตนเลสสตีล พร้อมเฟืองล็อคสายสเตนเลสสตีลแบบบานพับ และส่วนขยายสาย

การกันน้ำ: 30 บาร์ (300 เมตร)

-||-

 

กลไกนาฬิกา

หมายเลขเครื่อง: Oris 798

ฟังก์ชั่น: เข็มชั่วโมง เข็มนาที เช็มวินาที และเข็มแสดงเวลาแบบ 24 ชั่วโมงจากจุดศูนย์กลาง หน้าต่างแสดงวันที่ ปรับวันที่แบบฉับพลัน ปุ่มปรับวันที่และเวลา 24 ชั่วโมง กลไกปรับตั้งเวลาแบบละเอียด และหยุดเข็มวินาที

การขึ้นลาน: ออโตเมติก

พลังงานสำรอง: 42 ชั่วโมง

จำนวนจำกัด: กล่องบรรจุแบบพิเศษ ใบรับรอง จำนวนจำกัด 2,016 เรือน

 

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรคาเดโร ไทม์ โทร. 0 2163 0555

 

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด