TOP

‘สิ่งแวดล้อมศึกษา’ ปลูกความหวังลงในเมล็ดพันธุ์รุ่นเยาว์ สู่การโอบอุ้มทรัพยากรโลกในอนาคต

สิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใกล้ตัว เมื่อยามที่สุข เศร้า เหงา รัก หรืออยากพักผ่อน เราต่างมองหาสถานที่แวดล้อมธรรมชาติ เมื่อธรรมชาติเยียวเรา เราควรต้องเยียวยาธรรมชาติด้วยเช่นกัน ด้วยความเชื่อว่าสิ่งดีงามเราสามารถเริ่มต้นได้ด้วยสองมือเรา ไปสู่คนกลุ่มเล็กๆ สิ่งดีๆ ที่ได้เริ่มขึ้นจะส่งผลดีในวงกว้าง และนำไปสู่ความร่วมมือต่างๆ จากนักพัฒนาด้านสิ่งแวดล้อม หน่วยงาน องค์กรผู้มีอุดมการณ์เดียวกัน อย่างเช่นคนต้นแบบหลายๆ คนที่อยู่เบื้องหลังการอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ได้ส่งต่อแรงบันดาลใจสู่ผู้คนมากมาย จุดประกายความคิด มุมมอง และชีวิตที่นำไปสู่การเรียนรู้เพื่ออนุรักษ์วิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

 

ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย

และที่คงไม่กล่าวถึงไม่ได้ จากสื่อต่างๆ มากมายที่ใครๆ คงได้ผ่านตากับอีกบทบาทด้านการเป็นผู้ให้ ไอดอลด้านสิ่งแวดล้อมที่ต้องยกนิ้วให้ด้วยหัวใจกับสองนักแสดงเจ้าบทบาท “อเล็กซ์ เรนเดล” และ “เต้ย-จรินทร์พร จุนเกียรติ” ที่เราต่างคุ้นเคยกับเขาและเธอในฐานะนักแสดงแถวหน้า แต่อีกหลายๆ คนคงยังไม่รู้ว่า ทั้งสองเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ศูนย์สิ่งแวดล้อมศึกษาประเทศไทย (Environmental Education Centre Thailand หรือเรียก EEC Thailand) องค์กรที่มุ่งหวังในการส่งเสริมให้สังคมมีความรู้ และความเข้าใจต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม รวมทั้งสนับสนุนการมีส่วนร่วมในการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติ และทรัพยากรทางวัฒนธรรมร่วมกัน ผ่านกระบวนการที่เรียกว่า “สิ่งแวดล้อมศึกษา” เป็นการสร้างโอกาสในการพัฒนาองค์ความรู้ทางด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อการจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างจริงจัง

 

สิ่งแวดล้อมศึกษา

ด้วยความเชื่อเรื่องการมีส่วนร่วมของสาธารณะ จะส่งผลสำคัญต่อการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว เช่นเดียวกับที่ “อเล็กซ์” และ “เต้ย-จรินทร์พร” ก็มีความเชื่อที่ว่า การศึกษา การเข้าถึง การเรียนรู้ เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตทั้งธรรมชาติ พืช ป่า และสัตว์ต่างๆ รวมถึงสิ่งแวดล้อมนั้น มีประโยชน์เกื้อกูล เป็นทางออกและเป็นวิธีที่ทำให้ทรัพยากรธรรมชาติของเรายั่งยืน ยกตัวอย่าง เมื่อเราพาเด็กๆ ไปค่าย เข้าป่า ไปศึกษาว่าด้วงนี้มีถิ่นที่อยู่อาศัยอย่างไร พอได้รู้จักด้วง สัตว์ที่อยู่ในระบบนิเวศชนิดนี้แล้ว ก็จะรู้สึกถึงคุณค่าของตัวด้วง หรือได้ใกล้ชิดสัตว์ป่าบางประเภท

เช่นเดียวกับเวลาไปดำน้ำ ถ้าได้เรียนรู้ถึงชีวิตสัตว์น้ำใต้ท้องทะเล หรือปลาชนิดที่ใกล้สูญพันธุ์ มันจะเกิดความหมายทางใจ ส่งต่อแรงบันดาลใจ ทำให้มี Motivation มีแรง Drive บางอย่าง ที่ทำให้เราอยากจะปกป้องสิ่งนั้น เมื่อเราจะปกป้องอะไรก็แล้วแต่ เราต้องมีความรู้เกี่ยวกับสิ่งนั้นก่อน และการได้มาศึกษาคลุกคลีกับชาวบ้าน และกับสิ่งมีชีวิต มันทำให้เรื่องสิ่งแวดล้อมเข้าไปอยู่ในใจของเด็กได้ง่ายขึ้น เมื่อพวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต เขาก็จะไม่คิดเรื่องที่จะทำลายยิ่งมีชีวิต จิตสำนึกจะทำให้เขานึกถึงส่วนรวม นี่คือความยั่งยืนที่ “สิ่งแวดล้อมศึกษา” สามารถเข้าไปอยู่ในจิตของคนลึกกว่าใจ

 

ให้ธรรมชาติเป็นห้องเรียนของเรา

การเรียนรู้นอกห้องเรียน ด้วยการออกไปเรียนรู้โลกแห่งความเป็นจริง ให้เห็นถึงปัญหาของสังคม เป็นหัวใจหลักของ EEC Thailand ซึ่งมีแนววิธีสร้างสรรค์รูปแบบกิจกรรมร่วมสมัย อันเหมาะสมกับการนำพาสังคมไปสู่กระบวนการสิ่งแวดล้อมศึกษา ที่จะส่งผลต่อการรับรู้ ความเข้าใจ และก่อให้เกิดแรงบันดาลใจต่อผู้คนวงกว้าง ในการมีส่วนร่วมที่จะทำให้เกิดการปกป้องทรัพยากรทางธรรมชาติ และการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ดังประโยครณรงค์หลักที่ว่า LET NATURE BE OUR CLASSROOM “ให้ธรรมชาติเป็นห้องเรียนของเรา”

การสอนทักษะชีวิตสร้างวิธีคิด ที่เป็นระบบให้กับเด็กๆ โดยเอาวิทยาศาสตร์ สิ่งแวดล้อมมาสอน เอาชุดกาวน์ในห้องแล็บมาให้เด็กใส่ ให้ดูกล้องจุลทรรศน์ ให้วาดรูป เพื่อให้เขารู้ว่าทุกขั้นตอนเด็กที่มาเข้าค่ายแล้วกลับไป เด็กๆ มีคะแนนที่โรงเรียนกลับเพิ่มขึ้น ภายใต้ปรัชญาการเรียนรู้ในรูปแบบ “ให้ธรรมชาติเป็นห้องเรียนของเรา” แบ่งเป็น 4 ประเภทด้วยกัน

Wild Life พาเด็กๆ ไปเรียนรู้เรื่องธรรมชาติในป่า ขึ้นอยู่กับว่าคอนเทนต์นั้น เหมาะกับการสอนในฤดูกาลอะไร, Marine Life เป็นการเรียนรู้ธรรมชาติทางทะเล,

Private Camps ออกแบบกระบวนการเรียนรู้เอาท์ติ้งแนวทางใหม่ๆ และ CSR Solutions ออกแบบค่ายสำหรับหน่วยงานหรือองค์กรที่ต้องการทำ CSR หรือแม้แต่เด็กๆ Gap Year ที่มาจากต่างประเทศทำธีสิสด้านสิ่งแวดล้อม ต้องนึกถึง EEC เป็นที่แรกในประเทศไทย” โดยมี อาจารย์อลงกต ชูแก้ว เป็น Programme Director นำทีมดูแลจัดการหลักสูตรร่วมกับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญเรื่องสิ่งแวดล้อมในแต่ละด้าน

 

สร้างพลังในการพิทักษ์ทรัพยากรของโลก

กระบวนการการบ่มเพาะจิตสำนึกและการเรียนรู้ ควรเริ่มต้นตั้งแต่วัยเด็ก ที่นอกจากให้เด็กๆ ได้มีกิจกรรมสนุกสนานสมวัยแล้ว ก็ยังได้รับการสอดแทรกความรู้เชิงลึกผ่านกระบวนการการจัดค่าย ที่พาเด็กๆ และสมาชิก EEC Thailand ไปศึกษาสิ่งแวดล้อมยังสถานที่จริง เพื่อสัมผัสประสบการณ์ใหม่อันทรงคุณค่า โดยผู้เชี่ยวชาญที่มากประสบการณ์กว่า 20 ปี ที่ให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้ของเด็กเป็นหลัก เพื่อปลูกฝังจิตสำนึกเยาวชน รวมถึงบุคคลทั่วไปทั้งสถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา แม้แต่หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั้งในและต่างประเทศ ในการออกแบบวิธีการและกระบวนการ “สิ่งแวดล้อมศึกษา” ให้กลุ่มเป้าหมายต่างๆ ได้สร้างพลังในการพิทักษ์ทรัพยากรของโลก การป้องกันและแก้ไขภาวะความเสื่อมโทรมของทรัพยากรธรรมชาติในระยะยาว เพื่อใช้ประโยชน์บนหลักการพัฒนาต่อไปอย่างยั่งยืน

 

“วันสิ่งแวดล้อมโลก”

สิ่งแวดล้อมทุกคนต้องช่วยกันดูแล จากทุกสังคมมาร่วมเป็นส่วนหนึ่ง ในการช่วยกันดูแลทรัพยากรของเรา และในวันที่ 5 มิถุนายนของทุกปี องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้เป็น “วันสิ่งแวดล้อมโลก” เพื่อให้ทั่วโลกตื่นตัวกับวิฤตการณ์สิ่งแวดล้อมที่เกิดขึ้น ร่วมกันหาแนวทางป้องกันและลงมือแก้ไข ซึ่งการช่วยสิ่งแวดล้อมสามารถเริ่มทำได้ง่ายๆ ด้วยสองมือเรา ช่วยโลกของเราให้น่าอยู่มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการ แยกประเภทขยะ เป็นวิธีที่ช่วยให้ขยะไม่ปนกัน เพราะขยะบางชนิด เช่น กระดาษ ขวดแก้ว และขวดพลาสติก สามารถนำไปรีไซเคิลได้ หรือการ ใช้ถุงผ้า แทนถุงพลาสติก เป็นเรื่องที่รณรงค์กันมานานมากแล้ว เพราะถุงพลาสติกทำลายระบบนิเวศน์ รวมไปถึงทำให้เป็นอันตรายต่อสัตว์น้ำอีกด้วย และถุงพลาสติกยังใช้เวลาในการย่อยสลายนานมากๆ เราควรปรับตัวพกถุงผ้า ไม่ว่าจะไปที่ไหนแม้แต่ตลาดสดใกล้บ้าน หรือซุปเปอร์มาร์เก็ต, ลดการใช้ไฟฟ้า เริ่มได้ง่ายๆ จากการปิดและถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าในช่วงเวลาที่ไม่ได้ใช้งาน แถมยังช่วยประหยัดค่าไฟได้อีกทางหนึ่งด้วย หรือแม้แต่ ใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เป็นการช่วยลดการสิ้นเปลืองทรัพยากรน้ำ เพียงแค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราเอง ใช้น้ำอย่างประหยัด เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยเหลือสิ่งแวดล้อมได้อย่างง่ายๆ จากการใช้ชีวิตประจำวัน และทำตัวเป็นมิตรกับทุกชีวิต ให้สมดังคำว่าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ก็จะช่วยสิ่งแวดล้อมดีขึ้นได้อย่างแท้จริง

 

———————————————-

ที่มาและภาพประกอบทุกภาพ จาก EEC Thailand และ Facebook Officail : EECTHAILAND

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด