การลดหย่อนภาษีจากการบริจาคเพื่อสังคม คุณรู้ไหมว่าการบริจาคเพื่อสังคมให้ผลประโยชน์ทั้งแก่ผู้ให้และผู้รับ เพราะนอกจากคุณจะสามารถช่วยสังคมได้ตามกำลังที่คุณพึงสามารถทำได้แล้ว คุณเองก็รู้สึกดีและสิ่งดีๆ ที่สนองตอบความใจบุญของคุณก็คือ เงินบริจาคที่คุณตั้งใจให้ไปนั้น สามารถนำมาช่วยลดหย่อนภาษีให้คุณได้ และในกรณีที่คุณเป็นบริษัทห้างร้าน การบริจาคเพื่อช่วยเหลือสังคม จะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่องค์กรของคุณอีกด้วย ลองมาดูกันซิว่าการบริจาคเพื่อสังคมประเภทใดบ้าง ที่สามารถช่วยลดหย่อนภาษีและเป็นประโยชน์ต่อสังคมโดยส่วนใหญ่

1. การบริจาคเงินเพื่อการศึกษา
เงินบริจาคประเภทนี้จะรวมถึงเงินบริจาคเข้ากองทุนวิจัยและนวัตกรรม 4 กองทุน (กองทุนเพื่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ/กองทุนสนับสนุนการวิจัย/ กองทุนเพื่อพัฒนาระบบสาธารณสุข/ กองทุนเพื่อพัฒนาระบบมาตรวิทยา) และเงินบริจาคเพื่อการศึกษา เช่น สร้างอาคารเรียนซื้ออุปกรณ์การเรียน-การสอน และจัดหาบุคลากร (ครู-อาจารย์-ผู้เชี่ยวชาญ) ที่สำคัญแก่การสอน ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าคุณจะบริจาคให้สถานศึกษาใดก็ได้ เพื่อนำมาช่วยลดหย่อนภาษี แต่จะมีสถานศึกษาบางประเภทหรือบางแห่งเท่านั้น ที่คุณสามารถเช็ครายชื่อสถานศึกษาของรัฐ ที่มีสิทธิขอหักลดหย่อนภาษีจากเงินบริจาคได้ที่เว็บไซต์กรรมสรรพากร (www.rd.go.th/publish/28654.0.html)
เงินบริจาคส่วนนี้สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ถึง 2 เท่าของยอดเงินบริจาค นั่นหมายถึงว่าหากคุณบริจาคเงินไป 10,000 บาท คุณสามารถนนำมาช่วยลดหย่อนภาษีได้ถึง 20,000 บาท

2. การบริจาคเงินเพื่อสถานพยาบาลของรัฐ
เงินบริจาคในส่วนนี้จะนำไปช่วยสถานพยาบาลต่างๆ ของรัฐ ที่รวมไปถึงหน่วยอนามัยในท้องที่ห่างไกล และสถานพยาบาลชองสภากาชาดไทยด้วย เงินบริจาคช่วยสถานพยาบาลของรัฐสามารถนนำมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าเช่นเดียวกับเงินบริจาคเพื่อการศึกษา

3. เงินบริจาคอื่นๆ และเงินบริจาคน้ำท่วม
เงินบริจาคเพื่อสังคมส่วนนี้จะรวมถึงเงินบริจาคช่วยอุทกภัย และเงินบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์ต่างๆ โดยเงินบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์นั้น สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่า ในขณะที่เงินบริจาคเพื่อช่วยอุทกภัย และเงินบริจาคอื่นๆ นั้น สามารถนนำมาลดหย่อนได้ตามจำนวนจริงที่บริจาคไป ทั้งนี้ในปัจจุบันกรมสรรพากรก็ได้ตั้งระเบียบการบริจาคไว้ ว่าจะต้องผ่านระบบออนไลน์ e-donations เพื่อการจัดการที่ง่ายและสะดวกรวดเร็ว คุณสามารถ
เช็คขั้นตอนการบริจาคได้จากหน่วยงานที่คุณต้องการจะบริจาค ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วทางมูลนิธิจะมีการจัดทำระบบการบริจาคออนไลน์และมีการนำ QR Code มาใช้ผ่านความร่วมมือกับสถาบันการเงินแห่งต่างๆ หากคุณไม่แน่ใจในขั้นตอนการบริจาค และการนำมาเคลมภาษี คุณควรติดต่อสอบถามกับกรมสรรพากร หรือมูลนิธิที่คุณต้องการจะบริจาคเงินช่วยเหลือก่อนโอนเงินบริจาค

ขอบคุณที่มา พร้อม ภาพ :  Health Brings Wealth Magazine by BDMS