TOP

พีพีแกลเลอรี่ ชวนเปิดประสบการณ์แห่งสุนทรียรส กับร้านอาหารชั้นนำอันดับ 1 ของโลก “Geranium”

เดือนนี้ขอพาเพื่อน มารับประทาน ร้านอาหาร Geranium ในเมืองโคเปนเฮเกน ประเทศเดนมาร์ก ที่เพิ่งได้รับการโหวตให้เป็นร้านอาหารอันดับ 1 ของโลกโดย The World’s 50 Best Restaurants 2022 เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แถมการันตีด้วย 3 Michelin Star Restaurant อีกหนึ่งรางวัล ร้านนี้ตั้งอยู่บนชั้น 8 ในสนามฟุตบอลแห่งชาติ มองเห็นวิวสวนสาธารณะที่ต้นไม้เขียวชอุ่มรอบทิศ ในรูปที่เห็นจะเป็นครัวเปิดให้ดูการเตรียมอาหารบางขั้นตอน ก่อนเสิร์ฟลูกค้าอยู่ในตัวห้องอาหาร และด้านในจะมีครัวร้อนขนาดใหญ่ ที่มองไปเห็นวิวสนามฟุตบอลชัดแจ๋ว เรียกว่าทำกับข้าวไปเชียร์บอลไปได้เลยค่ะ

เมื่อมาถึงที่โต๊ะ จะมีเมนูวางไว้พร้อมผ้าเปียกเช็ดมือ (มีบางคอร์สที่ต้องใช้มือหยิบรับประทาน) สไตล์อาหารจะปรุงแบบสแกนดิเนเวียนโดยใช้วัตถุดิบตามฤดูกาล ที่นี่จะเสิร์ฟเป็นเมนูเดียวทั้งมื้อกลางวันและมื้อเย็น คือ Tasting Menu ราคา 3,200 โครน หรือประมาน 16,000 บาทต่อคน มีอาหารพิเศษให้สั่งเพิ่ม เป็นไข่ปลาคาเวียร์สีทอง ราคา 600 โครน หรือประมาณ 3,000 บาท และ Wine Pairings กับอาหารทุกคอร์ส ราคา 2,000 – 18,000 โครน หรือประมาณ 10,000 – 90,000 บาท ให้เลือก อาหารจะถูกแบ่งเป็น 3 คอร์สหลัก ๆ คอร์สแรกเป็น Appitizers เสิร์ฟเป็นอาหารเบา ๆ คำเล็ก ๆ เรียกน้ำย่อย วัตถุดิบหลักในครั้งนี้จะเป็นปลา ไข่ปลารมควัน หอยนางรม และไข่ปลาคาเวียร์สีทองที่เป็นเมนูพิเศษ ตามด้วยผักสด ๆ จิ้มกับซอสไข่ปลา Trout ผักกรอบหวานอร่อยมากจนต้องขอเพิ่ม

เริ่มคอร์สต่อมาคือ Savory Serving เหมือนเป็น Main Course หลายๆ จาน เริ่มด้วยปลาแมคคาเรลในซุปผักเสิร์ฟแบบเย็น ตามด้วยไข่ปลาคาเวียร์ผสมครีมซอสราดบนเกี๊ยวตัวเล็ก ๆ ตอนเสิร์ฟพนักงานจะเอาผักแยกอีกจานเอามาโชว์ให้ดูว่าอาหารที่เสิร์ฟมาใช้ผักและดอกไม้อะไรบ้าง หลัก ๆ ก็จะเป็นหน่อไม้ฝรั่ง ชีส และดอกไม้ป่า ไฮไลต์ของคอร์สนี้เป็นปลา Turbot ราดด้วยซอส Langoustine และเห็ด Morel ที่เนื้อนุ่ม สุกกำลังดี อร่อยมาก ๆ ก่อนจะเข้าสู่คอร์สขนมหวาน พนักงานจะพาเราไปชมห้องเก็บไวน์และแชมเปญ เดินผ่านห้อง Private Room ที่วันนั้นไม่มีลูกค้า แล้วเดินเลาะประตูต่อเข้าไปเจอกับครัวร้อนขนาดใหญ่ ที่มองไปนอกกระจกเป็นวิวสนามฟุตบอล จากนั้นกลับมาต่อคอร์สสุดท้ายเป็นเมนูของหวาน จานแรกจะเป็น Frozen Yoghurt ผสมใบชสอดไส้ Rubarb กินคู่กับกาแฟ ที่เอาอุปกรณ์มา Drift Coffee ให้ที่หน้าโต๊ะ ตามด้วยไอศกรีมและช็อกโกแลตรสชาติต่าง ๆ รวมแล้วมื้อนี้ใช้เวลารับประทาน 3 ชั่วโมงกว่า อิ่มอร่อยมาก ๆ ใครวางแผนมาเที่ยวที่นี่แล้วอยากลองรับประทาน แนะนำให้จองล่วงหน้าประมาณ 3 – 6 เดือน แป๋มไปรับประทานเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ก่อนที่ร้านจะได้รางวัลประมาณ 2 สัปดาห์

ด้วยความบังเอิญวันที่ไปถึง ตรงกับวันเริ่มการแข่งขันจักรยานทางไกล (Tour de France) ที่ออกสตาร์ทจากเมืองโคเปนเฮเกนพอดี ทำให้เส้นทางรถผ่านในตัวเมืองปิดการจราจร ต้องเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินควบคู่กับการเดิน ระหว่างทางเลยได้สัมผัสบรรยากาศความครึกครื้นจากกองเชียร์แต่ละประเทศ

เมืองนี้มีร้านอาหารน่าลองเยอะมาก เช่น Noma ร้านอาหารที่เคยครองแชมป์อันดับ 1 ของโลกมาหลายสมัย ซึ่งแป๋มเคยไปรับประทานเมื่อปี 2016 อาหารจะเน้นผักผลไม้สด ๆ และวัตถุดิบตามฤดูกาล ใครไม่ชอบกินผัก ร้านนี้ไม่แนะนำค่ะ อีกร้านที่ชอบมากคือ Slurp Raman ที่ต้องยืนต่อคิวหนาว หน้าร้านประมาณครึ่งชั่วโมง แต่รับรองว่าใครชอบ Shio Ramen ไม่ผิดหวังแน่นอน

ตามด้วยร้าน Anarki ที่เสิร์ฟอาหารสไตล์ Tapas Bar เมนูอาหารไม่เยอะ เหมาะสำหรับคนชอบดื่มไวน์ เพราะราคาเร้าใจมาก แต่เปิดดื่มได้เฉพาะในร้าน 

ปิดท้ายด้วยที่พักสำหรับทริปนี้ Manon Les Suites เป็น Boutique Hotel สไตล์บาหลี มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ตกแต่งด้วยต้นไม้หลากสี เป็นเอกลักษณ์อยู่กลางโรงแรม แป๋มเลือกพักห้องชั้น 2 ที่เปิดประตูออกมาเจอสระว่ายน้ำพอดี เพราะรู้สึกเหมือนได้พักพูลวิลล่า แต่เสียงเพลงและคนมาว่ายน้ำ นั่งเล่นหน้าห้องจะดังตั้งแต่เช้าจนถึงสี่ทุ่ม ใครนอนยากควรหลีกเลี่ยงโซนนี้ค่ะ

 

…………………………………………………………………………………….

Our Influencer

คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม

เจ้าของเพจ PPGALLERY (พีพีแกลเลอรี่)

ในช่องทาง Instagram: @ppgallery

และ Facebook:PPGALLERY

www.ppgallery.net

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด