ATELIER VERSACE รังสรรค์น้ำหอม 6 กลิ่นสุดหรู จากแฟชั่นเฮ้าส์แห่งเมืองมิลานสู่ไทย
Aterlier Versace เปิดตัวขึ้นในปี 1989 ในฐานะ “แล็บทดลอง” โดยมีจุดประสงค์ในการมุ่งมั่นและใส่ใจในเรื่องนวัตกรรม และการวิจัยด้านงานออกแบบ วัสดุ และเทคโนโลยี คอลเลคชั่นโอต์กูตูร์ทั้งหมด ถูกรังสรรค์ขึ้นภายใต้ Atelier Versace ในเมืองมิลาน นับตั้งแต่การวิจัยด้านสุนทรียศาสตร์ ประกอบกับงานออกแบบแห่งจินตนาการ ที่ใช้เวลานับร้อยชั่วโมง ก่อกำเนิดเป็นงานฝีมือที่ประณีตและพิถีพิถัน
Atelier แห่งนี้เฉลิมฉลองจุดตั้งต้นของ “แบรนด์เวอร์ซาเช่” เสมอมา ซึ่งคือการหวนระลึกถึงมารดาของจานนี่ และดอนนาเทลล่า เธอเป็นช่างตัดเสื้อ ที่ได้ถ่ายทอดขนบการตัดเย็บเสื้อผ้าของครอบครัว และถ่ายทอดสู่รุ่นลูก การเสาะแสวงหาวัสดุคุณภาพเยี่ยม และงานฝีมือชั้นยอด ได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นการรังสรรค์ความหอมอันแสนเอ็กซ์คลูซีฟ โดยจับมือกับ EuroItalia ภายใต้ชื่อของ Atelier Versace
น้ำหอมสุดหรูไลน์ใหม่
ประกอบด้วย 6 กลิ่น
ไล่ตั้งแต่กลิ่นสดชื่นของดอกไม้ จนถึงกลิ่นของพฤกษานานาพันธุ์
Cedrat de Diamante
จุดประกายความหอมและความมีชีวิตชีวา ของเลมอนสายพันธุ์อิตาเลียน ที่ส่งกลิ่นหอมมากกว่ากลิ่นซิตรัสแบบดั้งเดิม โดยได้แรงบันดาลใจจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน ผสานกลิ่นเกรปฟรุตสีชมพูและกลิ่นพฤกษาเข้าด้วยกัน กลิ่นนี้รังสรรค์ขึ้นจากจินตนาการของ มารี ซาลามาจ์น (Marie Salamagne) นักปรุงน้ำหอมผู้นำเอาศาสตร์แห่งศิลปะฝีมือมารวมไว้ กับกลิ่นหอมที่เธอสรรค์สร้างขึ้นมา ซึ่งความมีชีวิตชีวาของ กลิ่น Cédrat de Diamante นี้ ถูกเสริมให้โดดเด่นขึ้นด้วยความหอมของ “ซีดาร์วู้ด” และ “หญ้าแฝก”
Eclat de Rose
นำเสนอกลิ่นหอมของกุหลาบเซนติโฟเลีย จากโมร็อกโค ที่ได้รับการเก็บเกี่ยวอย่างพิถีพิถันในช่วงเช้าตรู่ ก่อนจะถูกนำมาผ่านกระบวนการแปรรูปอย่างรวดเร็ว อีกทั้งกลิ่นแอคคอร์ดของกุหลาบกลีบกำมะหยี่ ได้ถูกเสริมด้วยกลิ่นแอมบรอกซ์ อันเป็นซิกเนเจอร์ที่เผยถึงมิติของกลิ่น อำพัน ธูป ไม้ ยาเส้น และ มัสก์ โดย กลิ่น Éclat de Rose นั้นถูกคิดค้นขึ้นโดย นาธาลี ลอร์สัน (Nathalie Lorson) หนึ่งในตำนานนักปรุงน้ำหอมหญิง ผู้เชี่ยวชาญในการรังสรรค์น้ำหอม ที่สะท้อนความเรียบง่ายพร้อมแฝงไว้ด้วยคุณภาพชั้นเยี่ยม
Jasmin au Soleil
เป็นอีกหนึ่งน้ำหอมที่ถูกสรรค์สร้างจากการร่วมงานกับ นาธาลี ลอร์สัน (Nathalie Lorson) ซึ่งเลือกใช้ดอกมะลิจากอินเดีย ที่ถูกเก็บตอนย่ำรุ่ง เพื่อคงความสดใหม่ของกลิ่นไว้ พร้อมเติมเต็มกลิ่นของกลีบดอกมะลิ ด้วยขี้ผึ้งจากฝรั่งเศส ซึ่งผสมผสานกับกลิ่นบัลซามิก และน้ำผึ้งแทรกด้วยกลิ่นของฟางและยาสูบ มอบกลิ่นอันบางเบาดุจของกำมะหยี่ นำมาจับคู่กับความสดชื่นของ “เลมอน” และ “ซีดาร์วู้ด”
Figue Blanche
นำเสนอกลิ่นความสดชื่นจากการผสมผสานของมะเดื่อ กับเนื้อส้ม และน้ำมันหอมจากผลส้มแมนดาริน ชวนระลึกถึงบรรยากาศหน้าร้อนในแถบเมดิเตอร์เรเนียน กลิ่นอันอบอุ่นนี้ ได้รับการเติมเต็มความสดชื่นด้วย “เบอร์กามอท” และ “เนโรลิ” พร้อมกลิ่นหอมจาก “ดอกมะลิ” และ “กลีบกุหลาบ” ความหอมนี้ได้รับการปรุงโดย แมรีเปียร์ จูลิอง (Marypierre Julien) นักรังสรรค์ความหอมที่มีเอกลักษณ์เหนือความคาดหมาย
Santal Boise
ถูกรังสรรค์ขึ้นจากแซนดัลวู้ดในศรีลังกา กลิ่นหอมแบบมิลค์กี้ และบัลซามิกนี้ ได้มาจากรากและแก่นกลางของเนื้อไม้ โดยมีกลิ่น ไซพริโอล (Cypriol) ซึ่งเป็นสมุนไพรประเภทไม้ดอกอันบอบบาง ช่วยเติมความเป็นกลิ่นไม้ที่หอมแบบสโมกี้และเจือด้วยกลิ่นไม้กฤษณาบางเบา ให้กับความหอมนี้ได้อย่างลงตัว กลิ่นนี้ได้แรงบันดาลใจจากครอบครัวของ คริสตอฟ เรย์โนด์ (Cristophe Raynaud) เติมเต็มความหรูหราลงไปในกลิ่นวู้ดด้วยกลิ่นของหญ้าฝรั่นและน้ำมันยางที่แฝงกลิ่นอำพันในตัว
Vanille Rouge
รวมเอากลิ่นวานิลลาของมาดากัสการ์ ผสานด้วยกลิ่นหวานอย่าง พราลีน (praline) กลิ่นหอมหวานนั้นถูกประกบด้วยกลิ่นแอคคอร์ดแบบมัสก์ ที่หอมเหมือนแป้ง ความหอมที่ทรงพลังนี้ยังแฝงด้วยกลิ่นกุหลาบ อย่างเหนือความคาดหมายอีกด้วย กลิ่น Vanille Rouge นี้ได้รับการออกแบบโดย จอร์ดิ เฟอร์นานเดซ (Jordi Fernandez) ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากความสลับซับซ้อนของกลิ่นหอมดั้งเดิมในแถบตะวันออกกลาง
เพื่อระลึกถึงเทคนิคการตัดเย็บของ Atelier Versace น้ำหอมทุกกลิ่นจึงถูกบรรจุอยู่ในกล่องกระดาษแฮนด์เมด ตกแต่งด้วยขอบสีทองสไตล์กรีกคีย์ ผ่านการวาดด้วยมืออย่างพิถีพิถัน พร้อมเผยให้เห็นบานกระจกซึ่งมีโลโก้ของ Atelier Versace สีทองพิมพ์อยู่บนนั้นอีกด้วย น้ำหอมกลิ่นสดชื่นและบางเบา จะถูกบรรจุในขวดแก้วใส ในขณะที่กลิ่นหอมเข้มข้นติดทนนานอยู่ในขวดสีดำขลับ ขวดแก้วเหล่านี้ถูกทำขึ้นโดยใช้เทคนิคการบิดขวดที่ทันสมัย และดูทรงคุณค่ายิ่งขึ้นด้วยการสลักชื่อสีทองลงบนขวดน้ำหอม ฝาขวดทำจากโลหะ และได้รับการแกะสลักด้วยมือเป็นลวดลายเมดูซ่าแบบสามมิติ
แคมเปญนี้ยังทำให้หวนนึกถึงบรรยากาศแห่งความสนิทสนมใกล้ชิดของคนในครอบครัว ผ่านภาพนิ่งและวิดีโอ ที่นำเสนอบรรดานางแบบร่วมกับเหล่าช่างตัดเสื้อในห้องเสื้อของ Versace ท่ามกลางบรรยากาศเบื้องหลังการทำงานในสตูดิโอตัดเย็บเสื้อผ้า เหล่าช่างตัดเสื้อได้ลองดมกลิ่นความหอม ในขณะที่บางคนก็โพสท่าร่วมกับนางแบบซึ่งรวมถึง แองเจโล พาลมิ (Angelo Palmi) และช่างปักอย่าง แอนนา (Anna) และมาเรีย (Maria) โดยแคมเปญโฆษณาได้แรงบันดาลใจมาจากภาพในคอลเลคชั่นฤดูใบไม้ร่วง ฤดูหนาว 1981 ฝีมือการกดชัตเตอร์ของริชาร์ด อเวดอน (Richard Avedon) ซึ่งในภาพถ่ายจากปี 1981 นั้น เหล่านางแบบได้โพสท่าร่วมกับเหล่าช่างเย็บ ได้แก่ แอนโทเนีย (Antonia) ลินา (Lina) และปินา (Pina)
น้ำหอมกลิ่นหรูทั้ง 6 กลิ่น คือตัวแทนของการอุทิศตนอย่างเต็มที่ของ Atelier โดยนำความเป็น Versace ซึ่งประกอบด้วยความอุตสาหะ คุณภาพอันยอดเยี่ยม นวัตกรรมอันทันสมัย ความเป็นเลิศทางงานฝีมือ และความงามอันโดดเด่นที่ไม่เหมือนใครของ Atelier Versace รังสรรค์น้ำหอมนี้ โดยน้ำหอมทั้ง 6 กลิ่นนี้ วางจำหน่ายแล้ว ณ บูติก เวอร์ซาเช่ ศูนย์การค้าไอคอน สยาม