TOP

“ฮิโนยะ” ข้าวแกงกะหรี่ ดีกรีแชมป์ บินตรงจากญี่ปุ่น ปักหมุดสาขาแรก ณ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก

เถ้าแก่น้อย เรสเตอรองท์ แอนด์ แฟรนไชส์” คว้าสิทธิ์บริหารแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย ของร้านอาหารญี่ปุ่น “ฮิโนยะ เคอรี่” (Hinoya Curry) ข้าวแกงกะหรี่ดีกรีแชมป์ เจ้าของรางวัลชนะเลิศ Kanda Curry Grand Prix ปี 2013 ประเทศญี่ปุ่น ประเดิมเปิดสาขาแรกที่เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ถนนราชดำริ ย่านประตูน้ำ และถือเป็นสาขาแรกนอกประเทศญี่ปุ่น โดยชูจุดขายรสชาติเข้มข้น พร้อมท็อปปิ้งเกือบ 30 ชนิด และเมนูพิเศษสำหรับนักชิมไทย มั่นใจสยายปีกครบ 10 สาขา ภายใน 2 ปี ตามแนวคิดฟู้ด อินโนเวชั่น เอ็กซ์คลูซีฟแฟรนไชส์ร้านข้าวแกงกะหรี่ “ฮิโนยะ เคอรี่” (Hinoya Curry) ในประเทศไทย โดดเด่นด้วยคอนเซปท์ “แกงมิดข้าว” กับแกงกะหรี่สูตรพิเศษที่สืบทอดกันมา 3 เจนเนอเรชั่น  ภายใต้สโลแกน “ข้าวแกงกะหรี่ ดีกรีแชมป์”

สำหรับร้าน ฮิโนยะ เคอรี่ หรือ Hinoya Curry เป็นร้านข้าวแกงกะหรี่ชื่อดังในประเทศญี่ปุ่น ถือกำเนิดใน Yushima กรุงโตเกียว ในปี คศ. 2011 แม้จะเป็นทำเลที่ไม่มีคนพลุกพล่านมากนัก แต่ ฮิโนยะ เคอรี่ กลับทำยอดขายได้ดีเยี่ยม คิวยาวตลอด จากร้านเล็กๆ แห่งแรกเพียงร้านเดียว จึงได้เติบโตอย่างรวดเร็ว ลูกค้าพูดกันปากต่อปากอย่างไม่ขาดสาย ทำให้ชื่อของ ฮิโนยะ เคอรี่ เป็นที่โด่งดังไปทั่วประเทศ เมื่อเข้าร่วมแข่งขันและได้รับรางวัลชนะเลิศ จากการแข่งขันแกงกะหรี่ระดับประเทศ “Kanda Curry Grand Prix” ปี 2013 ซึ่งมีร้านข้าวแกงกะหรี่ร่วมแข่งขันกว่า 300 ร้าน ก่อนที่จะหาผู้ผ่านเข้ารอบ 23 ร้าน เพื่อแข่งขันในรอบสุดท้าย โดยให้ผู้ที่เข้าร่วมงานเกือบ 50,000 คน ได้ชิมและลงคะแนนให้กับร้านที่ถูกปาก โดนใจมากที่สุด และ “ฮิโนยะ เคอรี่” ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ นับเป็นร้านคลื่นลูกใหม่ที่คว้ารางวัลชนะเลิศ ด้วยเมนูข้าวแกงกระหรี่ไข่ดิบ และข้าวแกงกะหรี่หมูทอดทงคัตสึ หลังจากเปิดร้านได้เพียง 1 ปี 10 เดือน ท่ามกลางคู่แข่งขันที่เปิดร้านเก่าแก่กว่า 30 ปี และยังได้รับคะแนนโหวตสูงสุดอันดับ พร้อมกับยอดขายถึง 2,500 จาน ในระยะเวลาแค่ 3 วัน

นายฮิอูระ  มาซารุ (Mr. Hiura Masaru) เจ้าของร้านและเชฟชื่อดัง ผู้สืบทอดสูตรข้าวแกงกะหรี่ดั้งเดิม ตั้งแต่สมัยโชวะ “Hinoya Curry” (ฮิโนยะ เคอรี่) กล่าวว่า แกงกะหรี่ฮิโนยะ คิดค้นโดยคุณย่า ปรุงโดยคุณพ่อ ผ่านการคิดค้นทดลอง ให้มีมิติที่เข้มข้นยิ่งขึ้นในรุ่นลูก คือเขาเอง ถือเป็นแกงกะหรี่พรีเมี่ยมที่มีมิติแปลกใหม่ คงเสน่ห์ของความดั้งเดิมแบบญี่ปุ่น แต่เพิ่มเติมมิติที่สามด้วยส่วนผสมกว่า 90 ชนิด อาทิ กล้วย  มะม่วง องุ่นแห้ง ลูกพีช และเครื่องเทศกว่า 26 ชนิด ฯลฯ จนมีเอกลักษณ์ตามสโลแกน “คำแรกหวาน คำที่สองเผ็ดร้อน คำสุดท้ายหอมกรุ่นอยู่ในปาก” ถูกปากชาวญี่ปุ่นตลอดจนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 

ความสำเร็จดังกล่าวทำให้ ฮิโนยะ เคอรี่ ต้องขยายสาขาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนวันนี้ ฮิโนยะ เคอรี่ กลายเป็นร้านขวัญใจคนรุ่นใหม่ ทั้งกลุ่มวัยรุ่น วัยทำงานที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว คุ้มค่า  รวมถึงกลุ่มวัยกลางคนถึงสูงอายุด้วยรสชาติที่กลมกล่อม เข้มข้นแบบดั้งเดิม แต่แปลกใหม่ จนเติบโตมีสาขารวม 57 แห่ง พร้อมกับการเดินหน้าขยายสาขาต่อเนื่อง ด้วยคอนเซปท์ “แกงมิดข้าว” อร่อยจุใจ พร้อมรสสัมผัสตั้งแต่แรกเริ่ม ด้วย “คำแรกหวาน คำที่สองเผ็ดร้อน คำสุดท้ายหอมกรุ่นอยู่ในปาก” (始まり甘く あとより辛い 余韻残り)ทำให้ ฮิโนยะ เคอรี่ เป็นร้านแกงกะหรี่คลื่นลูกใหม่ ขวัญใจสาวกข้าวแกงกะหรี่ ตัวจริง เสียงจริง

สำหรับร้าน ฮิโนยะ เคอรี่ ข้าวแกงกะหรี่สาขาแรกในเมืองไทย ณ เดอะ มาร์เก็ต แบงคอก มีพื้นที่ราว 80 ตารางเมตร รองรับลูกค้าได้ 45 ที่นั่ง ภายในร้านมีเมนูข้าวแกงกะหรี่หน้าต่างๆ ให้เลือกเกือบ 30 รายการ โดยเมนูไฮไลต์ ได้แก่ ข้าวแกงกะหรี่หน้าไข่ดิบข้าวแกงกะหรี่หมูทอดทงคัตสีข้าวแกงกะหรี่ไก่ทอดซอสนัมบัง เป็นต้น ขณะนี้ ยังเปิดตัวเมนูใหม่ล่าสุดอีก เมนู ได้แก่ ข้าวแกงกะหรี่โนริสาหร่ายเถ้าแก่น้อย ที่ผสมผสานความหอมอร่อยกลมกล่อมของสาหร่ายเถ้าแก่น้อย เข้ากับความเข้มข้น 3 มิติของแกงกะหรี่ฮิโนยะได้อย่างลงตัว และยังเอาใจคนรักเนื้อวัว ด้วยเมนูวากิว หรือเนื้อวัวจากญี่ปุ่น “ข้าวแกงกะหรี่วากิวอะบุริ” ที่คัดสรรเนื้อวากิวชั้นดีนำมาลนไฟ รับประทานคู่กับไข่ดิบ และ เมนูข้าวแกงกระหรี่แฮมเบิร์กเนื้อ ท้ายสุดเมนูพิเศษรวมท๊อปปิ้งยอดนิยม ให้คนรักแกงกะหรี่ได้อิ่มฟินอย่างจุใจในจานเดียว คือเมนู “ข้าวแกงกะหรี่จัมโบ้” รวม 6 อย่าง หมูทงคัตสึไก่นัมบังชีสย่างไข่แดงกุ้งทอดและไส้กรอก ทั้งหมดนี้พร้อมให้คอแกงกะหรี่ลิ้มลองได้แล้ว นอกจากนั้นยังมีแพลนเปิดตัวเมนูใหม่ ข้าวแกงกะหรี่ซี่โครงหมูบาร์บีคิวข้าวแกงกะหรี่ปลาแซลมอนคัตสึอุด้งแกงกะหรี่ฮิโนยะ ที่จะพร้อมให้ทุกท่านได้สัมผัสความอร่อยล้ำ ภายในวันที่ 1 มิถุนายน 2562 นี้

 

ร้านฮิโนยะ เคอรี่ สาขาแรกได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี และมีแผนที่จะเปิดสาขาที่สอง บริเวณชั้น 2 ของ Cosmo plaza เมืองทองธานี ในวันที่ 29 พฤษภาคม 2562 และพร้อมเดินหน้าขยายสาขาให้ได้ 100 สาขาภายใน 10 ปี ในรูปแบบรับประทานในร้าน (Di) บริการนำกลับบ้าน (Take Aways) และบริการส่งถึงบ้าน (Delivery)

 

ซึ่งพบว่าความนิยมรับประทานอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย มีร้านอาหารญี่ปุ่นเกิดขึ้นจำนวนมาก ไม่ว่าเป็นร้านราเมง ร้านซูชิ ร้านทงคัตสึ รวมถึงร้านข้าวแกงกะหรี่ แต่ตอนนี้ธุรกิจร้านข้าวแกงกะหรี่มีการแข่งขันที่ไม่รุนแรงมากนัก จากผู้ประกอบการน้อยราย ขณะที่พฤติกรรมผู้บริโภคหันมาบริโภคข้าวแกงกะหรี่มากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มคนไทยที่นิยมไปท่องเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ทำให้มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจและการสร้างตลาดข้าวแกงกะหรี่ให้เติบโตขึ้นได้

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด