TOP

Big Crown ProPilot X Calibre 115 นาฬิการะดับมาสเตอร์พีซรุ่นใหม่ล่าสุดของ ‘โอริส’ นาฬิกาจักรกลสวิสอิสระที่มีความโมเดิร์นร่วมสมัย

เรือนเวลาสำหรับทุกโอกาส

เรือนเวลารุ่น Big Crown ProPilot X Calibre 115 เผยให้เห็นถึงรากฐานแห่งประวัติศาสตร์การผลิตนาฬิกาของโอริส อย่างไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้น แต่ในขณะเดียวกันก็ขับเคลื่อนให้บริษัทผู้ผลิตนาฬิกาจักรกลสวิสอิสระ ก้าวไปข้างหน้า นั่นคือความบริสุทธิ์ของโอริสดุจดั่งการสรรสร้างจากธรรมชาติ

จะมีใครสักกี่คนที่มีความรู้อย่างแท้จริงว่า เทคโนโลยีต่างๆ ที่อยู่รอบตัวเรานั้นทำงานอย่างไร? แก่นแท้ที่เป็นความสำคัญพื้นฐานที่ประกอบเข้าด้วยกันนั้นทำงานได้อย่างไร? มีสักกี่คนที่สามารถเข้าใจได้ว่า ชิ้นส่วนอุปกรณ์นั้นเชื่อมต่อประสานกับโครงข่ายอันยิ่งใหญ่ ที่มองไม่เห็นบนท้องฟ้าได้อย่างไร? มันอาจจะมีจำนวนคนไม่มากนัก ความก้าวหน้าในยุคสมัยของเราทำให้เราห่างไกลจากความรู้ที่แจ่มแจ้ง ว่าสิ่งที่เราเป็นเจ้าของนั้นทำงานได้อย่างไร ในแง่หนึ่ง เรามีเนื้อหาที่จะนำมาใช้ อย่างสมาร์ทโฟนถือเป็นตัวอย่างซึ่งเป็นเครื่องมือที่เราใช้ในการทำงาน มันเชื่อมเราเข้าด้วยกัน เราสามารถที่จะแบ่งปันเรื่องราวและไอเดียได้มากมาย ซึ่งนี่คือสิ่งที่ดี แต่ในขณะที่อุปกรณ์เหล่านั้นช่วยให้เราทำงานได้ดีที่สุด มันก็ทำให้เราตกเป็นทาสของมันได้อย่างเลวร้ายที่สุด และเนื่องจากเราไม่เข้าใจว่ามันทำงานอย่างไร มันจึงยากที่จะวางใจในอุปกรณ์เหล่านั้นและรู้จักมันอย่างแท้จริง ซึ่งทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น เส้นแห่งความคิดนี้ไปไกลเกินกว่าจะอธิบายว่าทำไมนาฬิกาจักรกลที่กำเนิดขึ้นมาหลายยุคสมัยนั้น มีความเชื่อมโยงกับปัจจุบันมากขึ้นกว่าที่ผ่านมา ไม่มีอุปกรณ์อิเล็คโทรนิคต่างๆ ไม่มีการเชื่อมต่อ ไม่มีแอพส์ ไม่มีความจริง โบราณคร่ำครึ? หรือความเข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง?

ในเชิงเปรียบเทียบ นาฬิการะบบจักรกลนั้นเป็นวัตถุที่สร้างขึ้นด้วยมือ ที่เราสามารถเชื่อมต่อได้ในความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด หากเราไม่เคลื่อนไหว ระบบจักรกลอัตโนมัติก็จะทำงานต่อไปโดยใช้พลังงานที่เหลือจนหมด ถ้าไม่ขึ้นลานนาฬิกาทุกๆ สองวัน เข็มนาฬิกาก็จะหยุดเดิน การเชื่อมต่อนั้นจึงเห็นได้อย่างชัดเจน ที่โอริส เราตัดสินใจที่จะมองลึกลงไปถึงสาระสำคัญของความคิดนี้ ถ้าคุณนำเรื่องความเที่ยงตรง และความถูกต้องสมบูรณ์ของนาฬิกาจักรกล และเปลือยมันให้เห็นฟันเฟืองทุกชิ้นส่วน เพื่อแสดงให้เห็นธรรมชาติที่แท้จริงของกลไก ว่าควรจะเป็นรูปแบบใด? และแนวคิดในการรังสรรค์นาฬิกาโอริสที่ผ่านมุมมองที่ตกผลึกนี้จะเป็นแบบใด? มันจะสื่อสารออกมาเป็นอะไร? คำตอบก็คือ Oris Big Crown ProPilot X Calibre 115 ซึ่งเป็นที่สุดของนาฬิกาโอริสที่ได้เคยสร้างสรรค์มา – นาฬิกาทุกเรือนที่ได้รังสรรค์ขึ้นมาก่อนหน้านี้ ได้นำพาเราจนมาถึงจุดนี้

มันคือนาฬิกาที่ได้แรงบันดาลใจมาจากธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุบเขา Waldenburg ที่รายล้อมหมู่บ้านชนบทของ Hölstein อันเป็นสถานที่ที่โอริสได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1904 ซึ่งเป็นภาพสะท้อนของวัฒนธรรมแห่งความร่วมสมัย พร้อมกับความมุ่งมั่นที่เติบโตขึ้นด้วยประสบการณ์ที่แท้จริง และมันเป็นนาฬิกาที่อธิบายถึงบุคลิกที่แท้จริงของโอริส

แนวคิดนี้เริ่มต้นจากกลไกของนาฬิกา โอริสเป็นบริษัทอิสระที่ผลิตเฉพาะนาฬิการะบบจักรกลแต่เพียงเท่านั้น ทุกสิ่งที่อยู่ภายในนาฬิกาเกิดจากการเต้นของหัวใจนาฬิกาที่เป็นเฟืองจักร ในโอกาสฉลองครบรอบ 110 ปี เราได้แนะนำ โอริส คาลิเบอร์ 110 ซึ่งเป็นนาฬิกาที่ผลิตขึ้นจำนวนจำกัด ด้วยกลไกพลังงานสำรอง 10 วัน ที่พัฒนาขึ้นเอง ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรหน้าต่างแสดงพลังงานสำรองแบบไม่เป็นเส้นตรง และเข็มวินาทีย่อย การผสมผสานของกลไกซับซ้อน ที่เป็นนวัตกรรมและมีความพิเศษไม่เหมือนใครนี้ กลายมาเป็นฐานโครงสร้างด้านสถาปัตยกรรม สำหรับชุดคาลิเบอร์ที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น ที่พัฒนาต่อเนื่องมาจาก คาลิเบอร์ 114 ที่เปิดตัวไปในปีที่ผ่านมา ด้วยกันนี้คาลิเบอร์นี้จึงได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์แห่งผู้สร้างสรรค์กลไกนาฬิกาของโอริส ซึ่งนับตั้งแต่ที่บริษัทได้ก่อตั้งมา ได้แนะนำกลไกนาฬิการุ่นต่างๆ ที่ผลิตขึ้นเองกว่า 270 คาลิเบอร์ นั่นคือมรดกแห่งความภาคภูมิใจ

 

“ผู้คนต่างรอคอยเวลาที่พวกเขาสามารถเข้าใจว่าสิ่งต่างๆ นั้นทำงานได้อย่างไร”

 

สำหรับ Big Crown ProPilot X Calibre 115 นี้ ช่างผู้รังสรรค์เรือนเวลาของโอริสได้นำเอาจิตวิญญาณของ คาลิเบอร์ 110 ผนวกรวมกับจินตนาการถึงกลไกของโอริสที่เปลือยเปล่าให้เห็นทั้งหมด รูปแบบของกลไกสเกเลตันตามแบบดั้งเดิม จะแบ่งส่วนหน้าต่างที่เผยให้เห็นทักษะที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษของช่างผู้รังสรรค์นาฬิกา แต่ว่ากลไกนาฬิกาของเรือนนี้นั้นมีความต้องการที่มากกว่า มันคือการเชื่อมต่อกับผู้คนเพื่อให้เห็นว่ากลไกต่างๆ นั้นทำงานอย่างไร นั่นคือสิ่งที่ทำให้เรือนเวลาที่มีความโมเดิร์นร่วมสมัยเรือนนี้ มีความน่าสนใจ ผู้คนต่างรอคอยเวลาที่พวกเขาสามารถเข้าใจว่าสิ่งต่างๆ นั้นทำงานได้อย่างไร

นาฬิการุ่น Big Crown ProPilot X Calibre 115 เผยให้เห็นการทำงานของฟันเฟืองที่อยู่ภายในทั้งหมด โดยไม่มีสิ่งใดซ่อนเร้น แม้แต่สปริงบาร์เรลบริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา ก็เปลือยเปล่าซึ่งสามารถมองเห็นการขยายตัวของเมนสปริงได้ แม้แต่เวลาหมุนมะยมเพื่อขึ้นลานนาฬิกานั้น ก็สามารถเห็นคอยล์เมนสปริงที่แน่นขึ้น…และแน่นขึ้น… จนกระทั่งลานเต็ม และพร้อมที่จะส่งพลังงานได้ถึง 10 วันโดยไม่มีสิ่งใดรบกวน

 

ไม่มีสิ่งใดที่จะหันเหความสนใจไปจากสิ่งนี้ ไม่มีการเคลือบเงา หรือการตกแต่งใดๆ ที่ไม่จำเป็น สะพานจักรสเกเลตันของคาร์ลิเบอร์ 115 นั้นเป็นสีเทาด้าน แทนที่จะขัดเงาหรือทำการแกะสลัก ถ้าจ้องมองเข้าไปที่กลไกผ่านแว่นขยายคุณจะเห็นขอบของเฟืองจักร ที่ไม่มีการลบเหลี่ยมหรือปรับมุมแต่อย่างใด ทุกชิ้นส่วนจะปล่อยให้เป็นไปตามลักษณะธรรมชาติ ไม่มีสิ่งใดที่จะมาปิดบังสาระสำคัญของศาสตร์แห่งประดิษฐกรรมนาฬิกาจักรกลสวิสดั้งเดิม มันเป็นประดิษฐกรรมที่มีความตั้งใจให้เป็นไปตามธรรมชาติ

 

มันไม่ใช่ความล้าสมัย แต่เป็นแรงบันดาลใจที่มาจากสุนทรียศาสตร์อันน่าทึ่งของกลไก ดีไซเนอร์ของโอริสได้รังสรรค์ตัวเรือนที่มีพลัง หนักแน่น ที่บรรจุไว้ซึ่งประวัติศาสตร์แห่งนาฬิกาสำหรับนักบินของบริษัท ซึ่งได้เริ่มต้นขึ้นในช่วงต้นทศวรรษ 1910 และได้เปิดตัวนาฬิกาข้อมือสำหรับนักบินรุ่น ‘บิ๊ก คราวน์’ ในปี 1917 และประดิษฐกรรมนาฬิกาจักรกลที่มีความเกี่ยวข้องในอนาคต ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าอับอายที่จะบอกเล่าเรื่องราวของมัน

 

ผลลัพธ์ของตัวเรือนไทเทเนียมแบบขัดด้านนั่นคือความตรงไปตรงมาอย่างเท่าเทียมกัน โดยพื้นฐานแล้วดีไซน์ของตัวเรือนสืบทอดมาจากแบบดั้งเดิมที่ผลิตขึ้นในปี 1938 ซึ่งได้รับการเสริมด้วยรูปแบบใบพัดของเครื่องยนต์เจ็ทที่ถ่ายทอดอยู่บนวงแหวนขอบหน้าปัดของ รุ่น Big Crown ProPilot ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้

ด้วยแนวคิดที่ตั้งอยู่บนคอนเซ็ปต์แบบดั้งเดิม แต่ขับเคลื่อนด้วยรูปแบบแห่งอนาคต มีความแข็งแกร่งและมั่นคง ที่แสดงถึงสมรรถนะด้านประดิษฐกรรมเครื่องบอกเวลาและความเชื่อมั่นของโอริส ในฐานะอุตสาหกรรมนาฬิกาจักรกลสวิสที่เตรียมพร้อมสำหรับทศวรรษใหม่ที่จะมาถึง

 

มันยังเป็นการอธิบายถึงการเปลี่ยนแปลงขนานใหญ่ของความหรูหรา ความหรูหราไม่ใช่เรื่องที่น่าโอ้อวด หรือสิ่งที่น่าหลงใหลอีกต่อไป ในปัจจุบันมันเป็นเรื่องของการเห็นคุณค่าของคุณภาพ เวลา และโอกาส ที่โอริสเราเรียกมันว่าความหรูหราในความธรรมดา ซึ่งไม่ต้องถูกบังคับหรือไม่ต้องคำนึงความรู้สึกผู้อื่น มันสามารถวัดค่าและบ่งชี้ได้อย่างชัดเจนว่ามันคือของแท้ นั่นคือ สาเหตุที่ไม่มีรายละเอียดใดๆ ที่ไม่จำเป็นในนาฬิกา ไม่ต้องมีสีที่ฉูดฉาด ไม่ต้องมีกลไกซับซ้อนที่ไม่มีความหมาย มันคือองค์ประกอบสำคัญที่เป็นงานฝีมือและมีชีวิต

 

นาฬิกา Big Crown ProPilot X Calibre 115 รังสรรค์ขึ้นมาเพื่อใคร?

ผู้สวมใส่นาฬิกาเรือนนี้ คือผู้ที่ชอบการผจญภัยและค้นพบสิ่งใหม่ พวกเขาต้องการที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโลกและตัวเอง พวกเขาต้องการเข้าถึงอีกระดับของความเข้าใจ นั่นคือความหมายของการดำเนินตามวิถีของตนเอง และนั่นคือเหตุผลที่เราพูดว่า Oris Big Crown ProPilot X Calibre 115 มีความตั้งใจให้เป็นไปตามธรรมชาติ เป็นนาฬิกาโอริสที่บริสุทธิ์แท้จริง

รายละเอียดนาฬิกา

Oris Big Crown ProPilot X Calibre 115 เป็นการแสดงออกที่บริสุทธิ์ของศาสตร์แห่งประดิษฐกรรมเครื่องบอกเวลาจักรกลสวิส

กลไกนาฬิกา

กลไกได้ถูกคิดค้นโดยช่างทำนาฬิกาของโอริส และถูกออกแบบเพื่อเผยให้เห็นกลไกเฟืองจักรที่อยู่ภายในว่าทำงานอย่างไร

ฟังก์ชั่น

คาลิเบอร์ 115 เป็นกลไกที่ขึ้นลานด้วยมือ มีพลังงานสำรอง 10 วัน หน้าต่างแสดงพลังงานสำรองแบบไม่เป็นเส้นตรง และเข็มวินาทีย่อย

ตัวเรือน

ตัวเรือนขนาด 44 มม. ทำด้วยไทเทเนียม ซึ่งเป็นวัสดุไฮเทค ที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน และไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

แรงบันดาลใจ

ทีมนักออกแบบได้รับแรงบันดาลใจจาก วัฒนธรรม สถาปัตยกรรม การบิน และธรรมชาติของหุบเขา Waldenburg ที่รายล้อมสำนักงานของโอริส

กลไกสเกเลตันที่เปลือยเปล่า

การเปลือยให้เห็นชิ้นส่วนของกลไกภายในนาฬิกา เป็นกระบวนการที่นำเอาส่วนของหน้าปัดออกไปเผยให้เห็นการทำงานของชิ้นส่วนกลไกภายในนาฬิกา

การทำงาน

หน้าต่างแสดงพลังงานสำรองแบบไม่เป็นเส้นตรง แสดงให้เห็นพลังงานที่ยังคงเหลืออยู่ด้วยความแม่นยำแม้ขณะที่พลังงานลดลง

การพัฒนา

แนวคิดที่อยู่เบื้องหลัง คาลิเบอร์ 115 ถือกำเนิดขึ้นเมื่อนานมาแล้ว ส่วนนาฬิกาใช้เวลา 2 ปีในการพัฒนาและผลิตออกสู่ตลาด

นาฬิกาที่ทันสมัย

เป็นนาฬิกาสำหรับนักบิน และเป็นนาฬิกาเรือนแรก ที่โอริสผลิตขึ้นโดยปราศจากตัวเลขบนหน้าปัด แต่มันเป็นนาฬิกาเรือนแรกที่มีความทันสมัยบนความหรูหรา

 

ในช่วงเวลาที่ถูกกำหนด 

โอริสมีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตนาฬิกา ในการรังสรรค์คาลิเบอร์ 115 มานานหลายปี”กล่าวโดย หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของบริษัท Beat Fischli (บีท ฟิสชี)

แต่เป็นตอนนี้เท่านั้นที่ถูกจังหวะเวลา คุณได้ไอเดียที่จะรังสรรค์ Oris Big Crown ProPilot Caliber 115 ขึ้นมาเมื่อใด?

ความจริงคือ มันอยู่ในหัวผมมานานหลายปี กลไกสเกเลตันแบบเปลือยเปล่าเป็นรูปแบบที่น่าตื่นเต้น คุณจะได้เห็นรายละเอียดทั้งหมด และคุณจะได้แสดงให้เห็นว่าอะไรที่คุณสามารถทำได้ แต่มันยังไม่ใช่เวลาที่เหมาะสมจนกระทั่งวันนี้

 

มีอะไรบ้างทีถูกปรับเปลี่ยน?

เราได้ทำการสร้างสรรค์มาตลอดจนถึงช่วงเวลานี้ เรารู้มานานแล้วว่าเรามีความชำนาญเรื่องกลไกที่รังสรรค์ขึ้นเองของเรา คาลิเบอร์ 110 ถึง 114 แต่ละรุ่นมีความโดดเด่นเฉพาะตัว ทำให้เรามีความมั่นใจ เพราะว่าแต่ละรุ่นนั้นได้รับผลตอบรับที่ดีมาก ในแต่ละครั้งเราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ และแต่ละครั้งผู้คนก็เริ่มที่จะเข้าใจมากยิ่งขึ้นเกี่ยวกับโอริส ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญในการผลิตนาฬิกา เรามีอิสระที่จะสร้างสรรค์นาฬิกาในแบบที่ลูกค้าของเราต้องการ และนั่นคือสิ่งที่เราชอบ เพราะว่าเรามีความเป็นอิสระ หลังจากการพัฒนาเหล่านี้ เรามีความรู้สึกพร้อมที่จะทำการผลิต และนำนาฬิกาที่มีแนวความคิดระดับสูงนี้ออกสู่ตลาด ที่จะแสดงให้โลกได้เห็นถึงอีกระดับของตัวตนที่แท้จริงของโอริส

 

คุณพัฒนามันอย่างไร?

กระบวนการมีความซับซ้อนมากกว่าปกติ เนื่องจากเมื่อคุณเปลือยให้เห็นกลไกที่อยู่ภายใน คุณจะเกิดคำถามขึ้นมากมาย เรารู้ว่าฐานของคาลิเบอร์นี้ทำงานอย่างไร เพราะว่ามีถึงห้าเวอร์ชั่นแล้วที่ถูกผลิตออกไป แต่เมื่อคุณเริ่มที่จะนำวัสดุบางส่วนออก คุณจะต้องตั้งคำถามว่าโครงสร้างจะมีความมั่นคงหรือไม่ มันอาจจะดูดี แต่จะทำงานได้ดีจริงหรือ?

 

ความสัมพันธ์ระหว่างทีมเทคนิค และทีมนักออกแบบเป็นอย่างไร?

มันเป็นการร่วมมือกันร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ต้องมีบางคนที่ต้องเป็นคนเริ่มต้น ขั้นตอนแรกคือ ด้านเทคนิค ที่จะทำงานในส่วนของฟังก์ชั่นต่างๆ การจัดวางตำแหน่งกลไก และเพื่อให้แน่ใจว่ามันเหมาะสมและมีความเป็นไปได้ ขั้นที่สองคือ การส่งทุกสิ่งที่เราค้นพบให้กับทีมนักออกแบบ พวกเขาจะนำเอาไอเดียให้ออกมาเป็นบางสิ่งที่สวยงาม หลังจากเราตรวจสอบความสมบูรณ์แบบถึงบูรณาการที่จำเป็นต่อการทำงานที่เชื่อถือได้ แน่นอนว่ามันมีบางขั้นตอนก่อนและหลัง ระหว่างกระบวนการนี้ที่มีความจำเป็นอีกสามขั้นตอน

 

มันใช้เวลานานเท่าใด?

รวมทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 2 ปี อย่างที่ผมได้พูดไปแล้วว่า เรารู้ว่าเรามีความสามารถในการทำบางสิ่งบางอย่างทางด้านเทคนิคนี้ให้เป็นจริง อย่างไรก็ดีอาจจะดีที่จะพูดว่า เราต้องเผชิญกับความท้าทายอย่างมากมาย ในแบบที่เราไม่เคยเจอมาก่อนจริงๆ ความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดก็คือ การหาช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเปิดตัวนาฬิกาที่มีความพิเศษเช่นนี้ เรามีความมั่นใจว่าวันนี้มันถึงเวลาแล้ว

 

อะไรที่ทำให้ คาลิเบอร์ 115 มีความพิเศษ?

มันเป็นความสำเร็จที่มีความสำคัญ นาฬิกาเรือนนี้คือ มาสเตอร์พีซ เป็นการรวมเอาการออกแบบและเทคโนโลยีเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์ ก่อนหน้านี้เรามีกลไกที่น่าทึ่ง แต่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้จริงๆ ว่ามันทำงานได้อย่างไร แต่วันนี้คุณสามารถมองเห็นมันได้ เหมือนอย่างที่คุณรู้ว่าพระราชวังนั้นมีความสวยงามอยู่ภายใน แต่คุณจะไม่สามารถแน่ใจได้ว่าความสวยงามที่แท้จริงที่อยู่ภายในนั้นเป็นอย่างไร จนกว่าคุณจะได้เดินผ่านประตูเข้าไปแล้วจริงๆ

 

มีสิ่งใดในนาฬิกาเรือนนี้ ที่คุณมีความภาคภูมิใจมากที่สุดหรือไม่?

ถ้าต้องเลือกได้เพียงอย่างเดียว ผมว่ามันคือ เมนสปริง มันทำให้นาฬิกามีคาแร็คเตอร์ที่พิเศษเฉพาะตัว ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปโดยขึ้นอยู่กับพลังงานว่ามีเหลือมากน้อยเพียงใด ปกติแล้วเมนสปริงจะถูกซ่อนไว้ แม้แต่ในนาฬิกาแบบที่เปลือยให้เห็นกลไกภายใน แต่เรารู้สึกว่าเราต้องโชว์มัน เพราะว่ามีเรื่องราวมากมายของนาฬิกาเรือนนี้ ที่อยู่ภายในการสำรองพลังงานได้ถึง 10 วัน โดยปกติทั่วไปนาฬิการะบบจักรกลจะสำรองพลังงานได้ประมาณ 40 ชั่วโมง – แต่เรือนนี้ได้ถึง 240 ชั่วโมง!

 

นาฬิการุ่น Big Crown ProPilot X Calibre 115 บอกอะไรเกี่ยวกับ โอริส บ้าง?

ในทุกรายละเอียด คุณจะเห็นถึงความเชี่ยวชาญของโอริส ประสบการณ์ของเรา และอะไรที่เราสามารถทำได้ และคุณจะยังเห็นถึงความซื่อตรง บริสุทธิ์ วิถีแห่งความหรูหรา สำหรับโอริสแล้วศาสตร์แห่งประดิษฐกรรมนาฬิกาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการดำเนินไปตามแบบฉบับของตนเอง การลงมือทำบางสิ่งบางอย่าง เพราะว่าคุณต้องการจะทำ เรามีอิสระในการที่จะทำ และเราก็เชื่อว่ามันเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม เราจึงได้ลงมือทำ

 

“ก่อนหน้านี้ เรามีกลไกที่น่าทึ่ง แต่ไม่มีใครสามารถเห็นว่ามันทำงานได้อย่างไร แต่วันนี้คุณสามารถเห็นการทำงานของมันได้แล้ว”

 

เมื่อทุกสิ่งมาอยู่รวมกัน

วิศวกรอาวุโสด้านการออกแบบผลิตภัณฑ์ของโอริส Lukas Bühlmann (ลูคัส บุลห์แมนน์) ผู้อยู่เบื้องหลังกระบวนการผลิต Oris Big Crown ProPilot X Calibre 115

อะไรคือ สาระสำคัญของการออกแบบที่อยู่เบื้องหลังนาฬิการุ่น  Big Crown ProPilot X Calibre 115?

ท้ายที่สุดแล้วใจความสำคัญก็คือ การขับเคลื่อนนาฬิกาสำหรับนักบินของโอริสไปสู่คนรุ่นต่อไป เราผลิตนาฬิกาสำหรับนักบินให้กับเหล่านักบินชาวอเมริกันในสงครามโลกครั้งที่สอง แต่อะไรคือความร่วมสมัย ความหรูหรา ที่นาฬิกาสำหรับนักบินของโอริสควรจะมี?

 

อะไรเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุด ในการดำเนินการตามใจความ สำคัญ?

หนึ่งในสิ่งที่ยากที่สุดก็คือ การคำนวณหาวิธีในการรักษาสมดุลระหว่าง ตัวเรือนตามแบบประเพณีนิยม และกลไกไว้ได้อย่างไร หรืออีกนัยหนึ่งคือจะออกแบบนาฬิกาให้มีความทันสมัยได้อย่างไร โดยที่ไม่ใช่นาฬิกาแนวแฟชั่น? เราต้องการที่จะสร้างสรรค์บางสิ่งที่มีความร่วมสมัย โดยที่ยังคงรักษาความสัมพันธ์เดิมไว้ แม้ว่ากระแสความนิยมตามยุคสมัยจะเปลี่ยนไป

 

คุณหาแรงบันดาลใจได้จากที่ใด?

การบินและสถาปัตยกรรม แนวความคิดที่อยู่เบื้องหลังประดิษฐกรรมเรือนเวลาเริ่มต้นขึ้นได้ด้วยกลไก และเราทำให้รูปลักษณ์ทางสถาปัตยกรรมมีความแข็งแกร่ง บาร์เรลที่เปลือยต้องดึงดูดสายตาคุณเป็นลำดับแรก ตามด้วยสะพานจักร และเมื่อนั้นคุณก็จะเริ่มเห็นถึงรายละเอียดของล้อเฟือง ตัวเรือนนั้นเปรียบเสมือนเครื่องบินปฏิบัติการลับ ที่มีปฏิสัมพันธ์ที่น่าตื่นเต้นต่อกันระหว่างกลไกที่มีการเคลื่อนไหว และองค์ประกอบอื่นๆ ที่อยู่คงที่

 

มีคุณลักษณะแนวฟิวเจอร์ริสติคในการออกแบบ – นั่นเป็นความตั้งใจหรือไม่?

ผมไม่เรียกมันว่าการออกแบบแบบฟิวเจอร์ริสติค แต่เป็นงานออกแบบที่มุ่งสู่อนาคต โอริสมีประวัติศาสตร์ในการสร้างสรรค์นาฬิกาสำหรับนักบินมาอย่างยาวนาน และคุณก็สามารถที่จะเห็นได้ในการออกแบบซึ่งมีความสำคัญ มันยังแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโอริส คุณค่าของการออกแบบที่งดงาม รวมถึงกระบวนการผลิตนาฬิกาจักรกลที่มีมาอย่างยาวนาน

 

คุณคิดว่านี่เป็นนาฬิกาสำหรับนักบินหรือไม่?

แน่นอนว่ามันไม่ใช่นาฬิกาสำหรับนักบินแบบธรรมดาทั่วไป กล่าวคือ นี่เป็นนาฬิกาสำหรับนักบินเรือนแรกของโอริสที่ไม่มีตัวเลขบอกเวลาบนหน้าปัด แต่ดีเอ็นเอที่เกี่ยวกับการบินยังคงมีอยู่ในรายละเอียดอย่างครบถ้วน เราใช้ไทเทเนียมสำหรับตัวเรือนนาฬิกา เพราะมีน้ำหนักที่เบามาก สิ่งที่ทำให้นาฬิกาสำหรับนักบินเรือนนี้มีความพิเศษก็คือ คุณลักษณะทางด้านเทคนิค เทคโนโลยีเป็นพลังงานขับเคลื่อนที่อยู่เบื้องหลังในเรื่องของการบินทุกวันนี้

 

อะไรคือสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงในเรื่องของการออกแบบนาฬิกาสเกเลตัน?

สิ่งที่สำคัญที่สุดประการแรกคือ ความเป็นไปได้ทางด้านเทคนิค นี่คือสิ่งที่จะอยู่คู่กับตัวดีไซเนอร์อยู่เสมอตลอดกระบวนการออกแบบ การออกแบบและฟังก์ชั่นต่างๆ ต้องทำงานร่วมไปด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั้นคุณต้องคิดหลายระดับในเวลาเดียวกัน ดังนั้น เมื่อทุกชิ้นส่วนมารวมกัน คุณจะได้รูปแบบอย่างที่คิดไว้ โดยรวมแล้วด้วยการคำนึงถึงสิ่งต่างๆ เหล่านี้ ทำให้การทำงานต้องใช้เวลานานด้วยเช่นกัน

 

บางครั้งสิ่งที่ต้องคำนึงถึงเหล่านั้น ได้ก่อให้เกิดปัญหาบ้างหรือไม่?

มีอย่างแน่นอน บางครั้งคุณต้องการออกแบบบางสิ่งไปในทางหนึ่ง แต่ไม่นานคุณก็จะรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ในทางเทคนิค มันเป็นเรื่องของการปรับให้เหมาะสม ยิ่งคุณมีความเข้าใจในหลักของการออกแบบมากเท่าใด คุณก็จะยิ่งหาทางออกได้เร็วยิ่งขึ้น

 

อะไรเป็นสิ่งที่นาฬิกาเรือนนี้จะบอกให้เราได้รู้เกี่ยวกับเรื่องความหรูหราในแบบของโอริส?

ความจริงก็คือสำหรับโอริสนั้น ความหรูหราเป็นเรื่องของการดำเนินตามแนวทางของตัวเอง นั่นเพราะมันเป็นเส้นทางที่เรายึดถือ ในทางปฏิบัติแล้วนั่นหมายถึง เราออกแบบนาฬิกาขึ้นสำหรับผู้ที่ตั้งคำถาม และต้องการหาประสบการณ์ชีวิตและวัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ประดิษฐกรรมแห่งเวลาของเราได้กลายมาเป็นเพื่อนร่วมทาง ผู้ซื่อสัตย์สำหรับการผจญภัยไปชั่วชีวิต ไม่ว่าคุณไปที่ไหน นาฬิกาโอริสของคุณก็จะติดตามคุณไปเสมอ

 

อะไรที่ทำให้นาฬิกาเรือนนี้ออกแบบมาได้ดี?

รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทุกมุมมองของตัวเรือน วิธีการที่สายนาฬิกาผสานเข้ากับตัวเรือนได้อย่างกลมกลืน การตัดสินใจที่จะมองข้ามตัวเลขบอกเวลา บ่าป้องกันมะยม สะพานจักร วงแหวนของหน้าปัดเซาะร่องแบบใบพัดเครื่องยนต์ และอื่นๆ อีกมากมาย มันเป็นการที่ทุกสิ่งมารวมกัน ดังนั้นคุณจะไม่เห็นมันเป็นรายละเอียดเล็กๆ แต่คุณจะเห็นมันเป็นส่วนหนึ่งของทั้งหมด ที่ทำให้รูปแบบของนาฬิกาเรือนนี้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ

 

คุณทำงานตามหลักการออกแบบที่ว่า ‘รูปแบบมาก่อนประโยชน์ใช้สอย – form follows function’ ใช่หรือไม่?

นาฬิกาควรจะต้องมีความหมาย และประกอบด้วยกลไกซับซ้อนที่มีประโยชน์ ส่วนรูปลักษณ์ของนาฬิกาก็ควรสะท้อนถึงสิ่งที่มันเป็น แต่คำว่ารูปแบบมาก่อนประโยชน์ใช้สอยนั้น มันฟังดูไม่มีความยืดหยุ่นเท่าไร อีกครั้งถ้าการ ‘ก้าวตามวิถีทางของตัวเอง’ เป็นแนวปณิธานของคุณแล้ว คุณจะไม่ถูกพันธนาการด้วยกฎใดกฎหนึ่ง

 

อะไรคือสิ่งที่ Big Crown ProPilot X Calibre 115 จะบอกถึงเกี่ยวกับการออกแบบของโอริส?

ผมคิดว่ามันจะบอกได้ถึงสองประการ คือ เราไม่กลัวที่จะขยายขอบเขตของเรา และเราชำนาญในการรวมเอาทักษะความเชี่ยวชาญต่างๆ เข้าด้วยกัน จำนวนสมาชิก 10 คน ที่อยู่ในทีมมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องของการออกแบบกลไก ตัวเรือน และสายนาฬิกา เฉกเช่นเดียวกับนาฬิกา ชิ้นส่วนเล็กๆ หลายชิ้นถูกนำมารวมกันเพื่อสร้างสรรค์บางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งเราทั้งหมดทุกคนภาคภูมิใจในผลลัพธ์ที่ออกมา

 

Big Crown ProPilot X Calibre 115

ประดิษฐกรรมเรือนเวลารุ่นใหม่ล่าสุดของโอริส กำเนิดขุมพลังงานด้วยกลไกที่พัฒนาขึ้นเองของโอริส ที่มีความโดดเด่นด้านการออกแบบ กลไก สเกเลตันที่เปลือยเปล่า คาลิเบอร์ 115 ได้เผยให้เห็นการทำงานของพลังงานสำรองแบบ 10 วัน และหน้าต่างแสดงพลังงานสำรองแบบไม่เป็นเส้นตรงที่อยู่ภายใน ความหรูหราแบบร่วมสมัยที่มุ่งเน้นถึงคุณค่าอมตะในด้านรูปแบบที่งดงาม ตามกระบวนการผลิตนาฬิกาจักรกลสวิส

รายละเอียดนาฬิกา

ตัวเรือน >> ไทเทเนียม แบบประกอบหลายชื้นส่วน

ขนาด >> 44.00 มิลลิเมตร (1.732 นิ้ว)

หน้าปัด >> สเกเลตัน

วัสดุเรืองแสง >> เข็มนาฬิกา และขีดบอกเวลาเคลือบสาร Super-LumiNova®

กระจกหน้าปัด >> แซฟไฟร์ คริสตัล โค้งรูปดดมสองชั้น เคลือบสารกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน

ฝาหลัง >> ไทเทเนียม ขันสกรู กระจกแซฟไฟร์ คริสตัล เผยให้เห็นกลไกภายใน

อุปกรณ์ปรับตั้งเวล่า >> มะยมนิรภัยแบบขันเกลียวทำด้วยไทเทเนียม

สายนาฬิกา >> สายไทเทเนียมแบบประกอบหลายชิ้น หรือ สายหนังสีดำ พร้อมเฟืองล็อคสายทำจากไทเทเนียมแบบ ‘ดึงขึ้น’

การกันน้ำ >> 10 บาร์ (100 เมตร)

 

กลไกนาฬิกา

หมายเลขเครื่อง >> คาลิเบอร์ 115 (สเกเลตัน)

ฟังก์ชั่น >> เข็มชั่วโมง และเข็มนาทีจากขุดศูนย์กลาง หน้าปัดย่อยสำหรับแสดงวินาที ณ ตำแหน่งระหว่าง 7 และ 8 นาฬิกา หน้าต่างแสดงพลังงานสำรองแบบไม่เป็นเส้นตรง ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา ปุ่มปรับตั้งเวลาแบบละเอียด และปุ่มหยุดเข็มวินาที

การขึ้นลาน >> ขึ้นลานด้วยมือ

พลังงานสำรอง >> 240 ชั่วโมง

บรรจุในกล่องไม้แบบพิเศษสุดหรู

การทำงานของนาฬิกา

นาฬิการุ่น Big Crown ProPilot X Calibre 115 ของโอริส กำเนิดพลังงานด้วยกลไกระดับสูงที่พัฒนาขึ้นเองของโอริส อันแสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนของนาฬิกา

การให้กำเนิดพลังงาน

คาลิเบอร์ 115 เป็นกลไกขึ้นลานด้วยมือผ่านมะยมเดี่ยว เมื่อขึ้นลานจนเต็มกลไกจะส่งพลังงานได้ถึง 10 วัน ซึ่งนาฬิกาจักรกลส่วนมากจะให้พลังงานได้ประมาณสองวัน นาฬิกาที่เป็นข้อยกเว้นที่ให้พลังงานได้ถึง 240 ชั่วโมงเรือนนี้ ได้รับพลังงานจากคอยล์ของเมนสปริง ที่อยู่ในบาร์เรลเดี่ยวขนาดใหญ่กว่าปกติ ที่สามารถมองเห็นได้ ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา พลังงานสำรองจะถูกแสดงให้เห็นผ่านทางหน้าต่าง แสดงพลังงานสำรองแบบไม่เป็นเส้นตรง ที่โอริสพัฒนาขึ้นเอง และได้รับการจดสิทธิบัตร ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา แสดงให้เห็นพลังงานที่คงเหลืออยู่ด้วยความแม่นยำ ว่าอีกกี่วันจะถึงเวลาที่ต้องขึ้นลานอีกครั้ง

 

ความลับที่ถูกเปิดเผย

หน้าต่างแสดงพลังงานสำรองแบบไม่เป็นเส้นตรง ที่ได้รับการจดสิทธิบัตรของโอริส ควบคุมการทำงานด้วย ‘เกียร์ตัวหนอน’ ประดิษฐกรรมใหม่ของโอริส ที่พบได้ในชุดนาฬิกาของโอริส ที่ประกอบด้วยกลไกที่พัฒนาขึ้นเองของโอริสทุกรุ่น เฟืองจักรอัจฉริยะนี้จะควบคุมความเร็วจากการเคลื่อนที่ของหน้าต่าง แสดงพลังงานสำรองไปรอบหน้าปัดย่อย ณ ตำแหน่ง 3 นาฬิกา

 

สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทรคาเดโร ไทม์ โทร. 0 2163-0555

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด