TOP

ชวนมาสัมผัสประสบการณ์แห่งการผักผ่อนแบบเหนือชั้น กับที่พัก-รีสอร์ทระดับลักชัวรี่สัญชาติไทยแท้

เมื่อพูดถึงแบรนด์ ‘ศาลา’ นอกเหนือจากสิ่งแรกที่นึกถึงคือ ช่วงเวลาพิเศษอันน่าประทับใจในวันหยุดพักผ่อนแล้ว ความสำเร็จของแบรนด์ไทยแท้ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราจะนึกถึง

เพราะศาลา ฮอสพิทอลลิตี้ กรุ๊ป (SALA Hospitality Group) คือบริษัทผู้นำด้านการบริการสัญชาติไทยแท้ ซึ่งเป็นเจ้าของและบริหารงานที่พัก-รีสอร์ทระดับลักซัวรี่ 7 แห่งในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ ศาลารีสอร์ทแอนด์สปา (SALA Resorts and Spas) และ ศาลาบูติค (sala boutique) โดยในส่วนของ ศาลารีสอร์ทแอนด์สปา (SALA Resorts and Spas) นั้น ทั้งหมดจะตั้งอยู่บนชายฝั่งอันงดงามของเกาะภูเก็ตและเกาะสมุย ภายใต้ปรัชญา Personal and Private แต่ละแห่งโดดเด่นด้วยชายหาดที่เงียบสงบ พร้อมห้องพักแบบสวีทและพูลวิลล่าอันหรูหราเหนือระดับ บวกรวมกับศาสตร์แห่งการผ่อนคลายที่ขึ้นชื่อของ ศาลาสปา (SALA Spa) รวมไปถึงบาร์และห้องอาหารริมทะเลสุดแสนโรแมนติก เรียกได้ว่าสามารถมอบประสบการณ์แห่งการพักผ่อนที่เป็นส่วนตัวได้อย่างแท้จริง

ส่วนรีสอร์ทแห่งแรกในคอลเลกชั่นแบรนด์ ศาลารีสอร์ทแอนด์สปา และเป็นแห่งแรกของเครือ ศาลา ฮอสพิทอลลิตี้ กรุ๊ป คือ ศาลา สมุย เชิงมน บีช รีสอร์ท (SALA Samui Choengmon Beach Resort) เปิดให้บริการในปี พ. ศ. 2547 ประกอบด้วยห้องพักและห้องสวีทสุดหรูจำนวน 69 ห้อง โดยในจำนวนนี้มีห้องพัก 53 ห้อง ที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวสุดเอ็กซ์คลูซีฟ ตามมาด้วย ศาลา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา (SALA Phuket Resort and Spa) ซึ่งเปิดให้บริการในปี พ.ศ. 2550 ประกอบด้วยวิลล่าและห้องสวีท 79 ห้อง ในจำนวนนี้มีห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวถึง 63 ห้อง ก่อนที่จะได้พบกับรีสอร์ทแห่งใหม่ล่าสุดในเครือคือ ศาลา สมุย เฉวง บีช รีสอร์ท (SALA Samui Chaweng Beach Resort) ซึ่งเพิ่งเปิดให้บริการเฟสแรกในเดือนมกราคม พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา แต่สามารถสร้างชื่อเสียงระดับทอล์กออฟเดอะทาวน์ ด้วยสไตล์ของรีสอร์ททรงพระจันทร์ที่เป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นที่สุดบนเกาะสมุยแห่งนี้ ล้อมรอบด้วยทิวทัศน์ของทะเลอ่าวไทยและชายหาดที่ขาวละเอียดนุ่มนวล

 

ภายในประกอบด้วยห้องพักแบบพูลวิลล่าและห้องสวีทสุดหรู รวม 52 หลัง โดยทุกหลังมีสระว่ายน้ำส่วนตัว ส่วนเฟสที่สองของรีสอร์ท จะเปิดให้บริการในเดือนเมษายน พ.ศ. 2562 ด้วยห้องพักและพูลวิลล่าอีก 82 ห้อง ในขณะที่ ศาลาบูติค (sala boutique) จะมาพร้อมกับแนวคิดที่การเน้นการออกแบบที่แตกต่างและมอบประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใครให้กับผู้เข้าพัก ที่พักในเครือ ศาลาบูติค จึงตั้งอยู่ในสถานที่ที่งดงาม และเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ภายใต้ปรัชญา Intimate and Indulgent สร้างสรรค์ออกมาเป็น ศาลาเขาใหญ่ (sala khaoyai) ซึ่งนับเป็นที่พักบูติคแห่งแรกของแบรนด์ ตั้งอยู่บนเนินเขาที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์อันเขียวขจีของเขาใหญ่ได้แบบพาโรนาม่า เปิดเมื่อปี พ. ศ. 2552 ประกอบด้วยห้องพักและพูลวิลล่าทั้งหมด 7 ห้อง ตามมาด้วย ศาลาล้านนา เชียงใหม่ (sala lanna Chiang Mai) ที่พักสไตล์บูติคอันทันสมัย เปิดตัวต้อนรับผู้มาเยือนในปี พ. ศ. 2556 ตั้งอยู่ริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำปิงที่มีชื่อเสียงใจกลางเมืองเชียงใหม่ ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 15 ห้อง แต่ละห้องมีระเบียงส่วนตัวและให้ทัศนียภาพของแม่น้ำที่ให้ได้ดื่มด่ำตลอดทั้งวัน

จากนั้นในปีเดียวกัน ศาลารัตนโกสินทร์ กรุงเทพ (sala rattanakosin Bangkok) ที่พักบูติคขนาด 15 ห้อง ซึ่งตั้งอยู่บนฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยาก็ได้เปิดให้บริการในเดือนเมษายน ภายในมีร้านอาหารและบาร์ชื่อดังอย่าง sala rattanakosin eatery and bar และ Rooftop Bar ที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ได้อย่างใกล้ชิด ทั้งยังอยู่ใกล้กับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ อาทิ พระบรมมหาราชวัง และวัดพระนอน (วัดโพธิ์) เพียงไม่กี่ก้าว ก่อนที่ ศาลาอยุธยา (sala ayutthaya) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางกรุงเก่าของกรุงศรีอยุธยาริมแม่น้ำเจ้าพระยา และตรงข้ามกับวัดพุทไธศวรรย์ที่มีชื่อเสียง จะเริ่มเปิดให้บริการในเดือนสิงหาคม พ. ศ. 2557 ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 26 ห้อง รวมถึงห้องดูเพล็กซ์สุดหรูริมแม่น้ำ และห้องสวีทแบบหนึ่งห้องนอน ทำให้ ศาลาอยุธยา รวมถึงโรงแรมอื่นๆ ในเครือศาลา ฮอสพิทอลลิตี้ กรุ๊ป สามารถตอบโจทย์นักเดินทางทุกคนได้อย่างลงตัว

SALA Hospitality Group

19/F อาคารธนิยะ พลาซ่า โซน A/1, 52 ถนนสีลม สุริยวงค์ บางรัก กรุงเทพฯ โทร. 0 2231 2588

www.salahospitality.com

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด