TOP

การอดนอน อาจทำให้ถึงตาย!

จากเฟสบุ๊คส์เพจ Dr.Orawan ของ แพทย์หญิง อรวรรณ กิจเชวงกุล กูรูด้านการแพทย์ผิวหนังและการชะลอวัย ได้นำเสนอบทความ เกี่ยวกับ “การอดนอน ถึงกับทำให้เสียชีวิตได้” เป็นเรื่องใกล้ตัวที่เราทุกคนควรอ่าน!

 

คุณหมออรวรรณ กล้่าวไว้ว่า การได้นอนหลับพักผ่อน เป็นสิ่่งสำคัญมากในการดำรงชีวิต มนุษย์ที่โตเต็มวัยหรือวัยผู้ใหญ่ ควรนอน 6-8 ชั่วโมงต่อวัน เพื่อสุขภาพที่ดี โดยการนอนมากเกินไปหรือน้อยเกินไปนั้น ล้วนเกิดผลเสียต่อร่างกายได้ แล้วถ้าหากเราไม่ได้นอนเลยเป็นระยะเวลานานๆ จะเป็นอย่างไร?

 

สำหรับคืนแรกที่เราอดนอนนั้น ระบบเมโสลิมบิคถูกกระตุ้นใหเกิดการหลั่งของ “โดปามีน” และส่งผลให้เกิดการใช้พลังงาน อาจรู้สึกกระปรี้กระเปร่า คิดบวก และมีอารมณ์ทางเพศได้ ฟังดูน่าสนใจ แต่รู้หรือไม่? มันคือจุดเริ่มต้นของหายนะ! เพราะหลังจากนั้นสมองของเราจะค่อยๆ ปิดการทำงานในส่วนของความคิด การวางแผน การตัดสินใจ และนำไปสู่การกระทำที่ย้ำคิดย้ำทำ เวลาผ่านไปเราจะเริ่มเหนื่อยล้า รู้สึกว่าตัวเองทำอะไรเชื่องช้า ประสิทธิภาพในการมองเห็นน้อยลง รวมไปถึงเกิดความบกพร่องในกระบวนการความคิด หลังจากผ่านไปสักวันสองวัน ร่างกายของเราจะสูญเสียความสามารถในการย่อยกลูโคส และระบบภูมิคุ้มกันหยุดทำงาน ในบางกรณีเมื่อถึงวันที่สามจะนำไปสู่การเห็นภาพหลอนได้อีกด้วย

ในปี 1964 “แรนดี้ การ์ดเนอร์” ชายหนุ่มวัย 17 ปี ทำการทดลองโดยการอดนอนเป็นเวลา 264 ชั่วโมง หรือ 11 วัน เพื่อดูว่าตัวเขานั้นจะมีอาการอย่างไร พบว่าในวันที่สองนั้น ตาของเขาไม่สามารถโฟกัสได้ และเขาสูญเสียความสามารถในการแยกแยะสิ่งของโดยการสัมผัส ในวันที่สามเขากลายเป็นคนเจ้าอารมณ์และหงุดหงิดง่าย ในวันสุดท้ายของการทดลองการ์ดเนอร์มีปัญหาในการเพ่งสมาธิ มีอาการหลงๆ ลืมๆ มีอาการทางจิต และเริ่มเห็นภาพหลอน ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นการ์ดเนอร์จะฟื้นฟูตัวเอง และไม่มีผลกระทบใดๆ ในระยะยาว แต่สำหรับกรณีอื่นๆ นั้น การอดนอน…สามารถส่งผลต่อฮอร์โมน ทำให้เกิดการเจ็บป่วยต่างๆ และในบางกรณีอาจเกิดการเสียชีวิตได้ 

 

อย่างในปี 2014 มีแฟนบอลคนหนึ่งเสียชีวิต เนื่องจากอดนอนเป็นเวลา 48 ชั่วโมง เพื่อดูบอลโลก และสาเหตุการตายของเขานั้น มาจาก “หลอดเลือดในสมองแตก” โดยมีการศึกษาพบว่าพฤติกรรมนอนน้อยกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน จะเพิ่มความเสี่ยงเส้นลือดในสมองแตก ถึง 4.5 เท่า ของคนที่นอน 7-8 ชั่วโมงต่อวัน และในคนบางกลุ่มนั้น ปัญหาเรื่องการนอน เป็นเรื่องสำคัญอย่างมากสำหรับคนกลุ่มนี้ คือ บุคคลที่มี “อาการหัวระเบิด” นั้นเอง อาการหัวระเบิด คืออาการที่ผู้ป่วยจะได้ยินเสียงดังมากๆ เหมือนเสียงระเบิดในขณะหลับ โดยมักจะเกิดกับผู้ที่มีความเครียดหรือผู้ที่ร่างกายเหนื่อยล้าเกินไป อาการจะรบกวนการนอนหลับ และทำให้เกิดความหวาดระแวงได้ และในคนอีกกลุ่มหนึ่งที่จะมีปัญหาเรื่องการนอนหลับ ก็คือ ผู้ที่เป็น “โรคนอนไม่หลับถึงตาย” หรือ Fatal Familial Insomnia นั่นเอง สำหรับโรคนี้ผู้ป่วยจะมีอาการนอนไม่หลับ น้ำหนักลดฮวบ อุณหภูมิในร่างกายผิดปกติ และอาการหัวเสียง่าย โดยโรคนี้ยังไม่สามารถรักษาได้ และมักจะเสียชีวิต 12-18 เดือน หลังจากแสดงอาการครั้งแรก ซึ่งน่ากลัวมากจริงๆ

 

ทำไมการอดนอนถึงส่งผลต่อเราได้มากขนาดนี้ ?

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าคำตอบนั้นคือ การสะสมของเสียในสมอง ในขณะที่เราตื่นนั้น สมองและร่างกายของเราจะมีการใช้พลังงาน และทรัพยากรต่างๆ ในร่างกาย เพื่อดำรงชีวิต และกระบวนการเหล่านั้น ก็ทำให้เกิดของเสียต่างๆ สะสมในร่างกายและในสมอง ตัวอย่างเช่น อะดีโนซีน เมื่อเกิดการสะสมมากๆ จะเป็นตัวกระตุ้นให้เราง่วงนอน การที่คาเฟอีนทำให้เรานอนไม่หลับนั้น ก็เพราะมันไปขัดขวางตัวรับสัญญานของอะดีโนซีนนั่นเอง อะดีโนซีนและของเสียอื่นๆ ในสมองนั้น หากไม่มีการกำจัดของเสียพวกนี้ออกไป สมองของเราก็จะไม่สามารถรับได้ และส่งผลให้เกิดอาการต่างๆ นั่นเอง

 

การได้นอนหลับช่วยร่างกายอย่างไร

นักวิทยาศาสตร์ค้นพบระบบในร่างกาย ชื่อว่า Glymphatic System ซึ่งเป็นระบบที่คอยกำจัดของเสียต่างๆ ที่เราพูดถึงนั่นเอง และระบบนี้จะทำงานได้ดีขณะที่เรากำลังหลับ โดยใช้น้ำหล่อเลี้ยงไขสันหลังในการขจัดของเสียต่างๆ ที่สะสมระหว่างเซลล์ออกไป การนอนหลับจึงจำเป็นสำหรับมนุษย์เราอย่างมาก ดังนั้นการที่เราจะมีสุขภาพที่ดีได้นั้น เราต้องไม่ละเลยการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ

ฮอร์โมนตัวที่สำคัญ ที่ช่วยในการซ่อมแซมร่างกายและเพิ่มภูมิต้านทาน และช่วยให้ร่างกายหลับลึก นั่นคือ “เมลาโตนิน” ซึ่งผลิตจากต่อมใต้สมอง และในลำไส้เล็ก ซึ่งจะทำงานได้ดีมากในวัยเด็ก และผลิตน้อยลงในวัยชรา การได้นอนในห้องที่อุณหภูมิพอเหมาะ มืดสนิท และปราศจากเสียงรบกวน รวมทั้งหลับให้เป็นเวลาก่อน 22 นาฬิกา จะช่วยเสริมและสร้างฮอรโมนชนิดนี้ ช่วยให้เราหลับได้อย่างมีคุณภาพ หลับลึก และตื่นขึ้นมาสดชื่นพร้อมรับวันใหม่อย่างสดใส

 

มาจัดสรรบริหารเวลาให้เหมาะสม เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีจะอยู่คู่กับเราไปนานๆ อย่าใช้งานร่างกายอย่างหักโหม เงินทองและการงาน ไม่ได้มีค่ามากไปกว่าสุขภาพที่แข็งแรง ทั้งใจและกาย เพราะสุขอื่นใดยิ่งกว่าความสงบไม่มี และลาภใดก็ไม่ประเสริฐไปกว่าการที่มีสุขภาพที่ดี

ที่มา : Dr.Orawan | Facebook Page

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด