Unseen Thailand X Money Heist

ช่วงนี้ได้อยู่บ้านมากขึ้น ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้ดูซีรีส์ ที่เพื่อนแอบมาสปอยล์ไว้หลายต่อหลายเรื่อง รวมไปถึงซีรีส์ฮอตฮิตจากประเทศสเปน อย่าง “Money Heist” (La Casa de Papel) หรือชื่อไทยว่า “ทรชนคนปล้นโลก” ที่มีออกมาให้ดูถึง 4 ซีซั่น

ซีรีส์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของกลุ่มโจรอัจฉริยะนำโดย “ศาสตราจารย์” ซึ่งเป็นผู้วางแผนการปล้นครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ กับเหล่าสมาชิกทั้ง 8 คน ที่มีความเก่งแตกต่างกันไปในแต่ละด้าน แต่ละคนจะมีชื่อใหม่ไว้ใช้เรียกกัน เพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริง โดยตั้งชื่อตามชื่อเมืองต่างๆ เช่น โตเกียว เบอร์ลิน ฯลฯ โจรกลุ่มนี้วางแผนปล้นหรือบุกยึดโรงกษาปณ์ของสเปน เป้าหมายเพื่อจับตัวประกันไว้ถ่วงเวลา แล้วพิมพ์ธนบัตรสกุลยูโรออกมาให้ได้ถึง 2,400 ล้านยูโร ซึ่งในกลุ่มมีกฎเหล็กว่าห้ามมีความสัมพันธ์ใดๆ ต่อกันทั้งสิ้น และห้ามมีคนบาดเจ็บล้มตายระหว่างการโจรกรรม โจรกลุ่มนี้จะปล้นได้สำเร็จตามแผนหรือไม่ ลองไปติดตามดูกันค่ะ

ดูจนจบซีซั่น 2 โจรทั้งหลายก็ต่างแยกย้ายไปใช้ชีวิตตามสถานที่ในฝันของตัวเอง โดยช่วงเริ่มซีซั่นที่ 3 ศาสตราจารย์และโตเกียว (โจรสาวผู้ดำเนินเรื่อง) ได้นัดมาเจอกันเพื่อทำภารกิจใหม่ ซึ่งสถานที่ถ่ายทำฉากนั้นคือ “ปราสาทสัจธรรม” (Sanctuary of Truth) ปราสาทไม้แกะสลักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นปราสาทไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก หนึ่งในสถานที่ Unseen Thailand ใกล้กรุงเทพฯ เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น

ปราสาทสัจธรรม ตั้งอยู่บนชายหาดแหลมราชเวช อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ. 2524 จวบจนปัจจุบันก็ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ เป็นปราสาทที่ทำด้วยไม้ทั้งหลัง ไม่มีโลหะหรือปูนเข้ามาปะปน ยกเว้นส่วนฐานที่เป็นคอนกรีต มีการใช้ระบบเข้าเดือยไม้แบบไทย หรือใส่สลักไม้ตามภูมิปัญญาโบราณ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 80 ไร่ ชาวบ้านโดยทั่วไปเรียกว่า “วังโบราณ” บ้างก็เรียกตามวัสดุของตัวอาคารว่า “ปราสาทไม้” ตัวปราสาทเป็นทรงจตุรมุข สูง 100 เมตร กว้าง 100 เมตร แกะสลักลวดลายอย่างวิจิตรพิสดาร ทั้งภายนอกและภายใน กล่าวกันว่างามดั่งเทพนฤมิต สะท้อนแนวคิดนามธรรมออกมาตีแผ่เป็นรูปธรรมให้สัมผัสได้ สื่อถึงความสำคัญของศาสนา และปรัชญาตะวันออก ปราสาทแห่งนี้สร้างโดย “คุณเล็ก วิริยะพันธุ์” นักธุรกิจผู้ชื่นชอบสถาปัตยกรรมไทย และศาสนาพุทธ อีกทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งเมืองโบราณ จังหวัดสมุทรปราการ และพิพิธภัณฑ์ช้างเอราวัณด้วย

แป๋มได้เข้าไปเยี่ยมชมเมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 บอกได้เลยว่างดงามสมคำร่ำลือจริงๆ ในภาพที่ถ่ายมา จะเห็นมีการต่อเติมและบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา เพราะงานไม้นั้นทำได้ยาก และต้องใช้เวลานาน ภายในปราสาทได้แฝงเนื้อหาทางปรัชญา และศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดกของมนุษย์ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของศาสนาในฐานะเป็นเครื่องค้ำจุนโลก โดยเน้นหลักสำคัญคือ “ก่อกำเนิดทั้ง 7 และคุณธรรมข้อประพฤติปฏิบัติทั้ง 4” 

นอกจากนี้ โดยรอบปราสาทยังมีกิจกรรมให้ทำอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ ATV, นั่งสปีดโบ้ท, นั่งรถม้า, ขี่ม้า, ขี่ช้างชมปราสาท หรือ นั่งเรือขุดโบราณ ชมวิวทะเลรอบๆ บริเวณพิพิธภัณฑ์ปราสาท รวมถึงชมการแสดงศิลปะการฟันดาบ รำไทย และนาฏศิลป์ จัดเป็น Unseen Thailand ที่อยากให้คนไทยได้มาชื่นชมสักครั้ง เพราะเมื่อมาที่นี่ คุณไม่เพียงแค่ได้ชมความสวยของงานไม้แกะสลักฝีมือคนไทย แต่ยังได้ความรู้ทางด้านความเชื่อ ศาสนา และหลักการดำเนินชีวิตอีกด้วย การเดินทางจากพัทยาใต้ ขับรถไปประมาณ 5 กิโลเมตร ทางเข้าอยู่บริเวณซอยนาเกลือ12 ตรงเข้าไปจนเกือบสุดซอย มีซุ้มประตูขนาดใหญ่สีขาวของปราสาทสัจธรรมอยู่ทางขวามือ

ค่าเข้าชม : ผู้ใหญ่ 500 บาท/ เด็ก 250 บาท มีตารางเวลาให้เข้าชมเป็นรอบๆ จำกัดจำนวนคน ทำให้ข้างในมีคนไม่ค่อยเยอะ แต่ช่วงนี้ปิดบริการอยู่ คาดว่าจะเปิดให้เข้าชมอีกครั้งในเดือนกรกฎาคม 2563 อย่างไรลองเช็คข้อมูลก่อนเดินทางได้ที่ www.sanctuaryoftruth.com นะคะ

ก่อนกลับ สามารถแวะกินอาหารที่ “ครัวนาเกลือ” ร้านอาหารในเขตปราสาทสัจธรรม ที่ต้องใช้คำว่า “กินข้าวหลักร้อย ดูวิวหลักล้าน” เพราะได้นั่งกินอาหาร พร้อมชมวิวปราสาทได้อย่างใกล้ชิด มองเลยไปอีกหน่อยก็จะเห็นวิวทะเลสวยงาม

สำหรับเพื่อนๆ ที่วางแผนไปเที่ยวแบบค้างคืน โรงแรม RENAISSANCE PATTAYA RESORT & SPA มีโปรโมชั่นพิเศษ สำหรับผู้ถือบัตรเครดิตซิตี้ รับสิทธิในการสำรองห้อง Deluxe Balcony Seaview ราคา 5,000 บาทสุทธิ ต่อห้องต่อคืน พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน (ชำระเพิ่ม 1,000 บาทสุทธิ เมื่อต้องการเข้าพักในคืนวันศุกร์ วันเสาร์ วันหยุดยาว หรือช่วงกิจกรรมของเมือง) และรับฟรี นวดไทยหรือนวดอโรมา โดยผลิตภัณฑ์จาก HARNN สำหรับ 1 ท่าน เมื่อสำรอง 1 ท่าน ในราคาปกติ ที่ The Spa สิทธิพิเศษ ใช้ได้จนถึง 20 ธ.ค. 63 นี้นะคะ

***************

Our Blogger

คุณปิยะดา ปุณณกิติเกษม

เจ้าของเพจ PPGALLERY (พีพีแกลเลอรี่) ในช่องทาง 

Instagram: @ppgallery และ Facebook: PPGALLERY

www.ppgallery.net