TOP

Van Cleef & Arpels เครื่องประดับระดับตำนาน มอบคุณค่าความงามจากธรรมชาติ ผสานความเชื่อ และเครื่องหมายนำโชค สู่ “คอสมอส คอลเลกชัน”

แรงบันดาลใจนับไม่ถ้วนจากดินแดนแห่งพฤกษา มีบทบาทสำคัญในการสรรสร้างเครื่องประดับคอลเลกชันต่างๆ จากกลีบดอกบางเบาราวแพรโปร่ง ไปจนถึงเฉดสีสดใส ล้วนได้รับการพลิกแพลงผ่านเทคนิคของ “เมซง” ผู้ผลิตเครื่องประดับอัญมณีระดับตำนาน ที่สืบทอดเคล็ดลับการทำจิวเวลรี่สไตล์ฝรั่งเศสมาแต่โบราณ สู่ผลงานเสมือนจริง เกิดเป็น พฤกษาดาราจักร หรือเครื่องประดับ “คอสมอส” (Cosmos collection) จำลองแบบรูปทรง “ดอกดาวกระจาย” ร่วมกับ “ใบโคลเวอร์สี่แฉก” มาใช้ในการถ่ายทอดจินตนาการต่อดอกไม้ในห้วงจักรวาล จนกลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์แห่ง Van Cleef & Arpels “แวน คลีฟ แอนด์ อาร์เปลส์” ด้วยลีลาตัดกัน ระหว่าง “สีขาว” สกาวแสงแห่งมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล กับ “สีดำ” ขลับล้ำลึกของออนิกซ์ จากทรวดทรงที่อ่อนช้อยบนโครงสร้างตัวเรือน ซึ่งอาศัยการจัดสัดส่วนองค์ประกอบอย่างพิถีพิถัน อำนวยต่อการสะท้อนแสงจรัสประกายเจิดจ้า นี่คือผลงานเครื่องประดับที่ได้รับการสรรค์สร้างขึ้น เพื่อเป็นบทยกย่องคุณค่าความงามในธรรมชาติ และเครื่องหมายนำโชค ทั้งสองสิ่งนี้ คือส่วนหนึ่งจากบรรดาแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจ ซึ่งเมซงนิยมชมชอบอย่างที่สุด เกิดเป็นผลงานเครื่องประดับชิ้นเอก ไม่ว่าจะเป็น ต่างหู, แหวน, แหวนหว่างนื้ว และสร้อยคอ

 

เครื่องประดับนำโชค อันบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิง

กลีบดอกรูปหัวใจทั้งสี่ ซึ่งได้รับการจัดตำแหน่งเข้ามุมอย่างละเมียดละไมของเครื่องประดับ “คอสมอส” อาศัยแรงบันดาลใจจากดอกไม้รูปทรงแบบฉบับของ Van Cleef & Arpels อันมีที่มาจากช่วงทศวรรษ 1950 กลีบดอกจำแลงลักษณ์ของ “ใบโคลเวอร์สี่กลีบ” อันอ่อนช้อย ผสานเข้ากับความงามสง่าของ “วงกลีบดอกดาวกระจาย” นำมาซึ่งคอลเลกชันเครื่องประดับนำโชค อันบ่งบอกถึงความเป็นผู้หญิง ที่เต็มไปด้วยความเบิกบาน สดใส จนกลายเป็นหนึ่งในผลงานสัญลักษณ์ประจำของเมซง ด้วยรูปลักษณ์ที่ถูกนำมาใช้จากสองวัสดุดาวเด่น ที่มีความขัดแย้งกันอย่างยิ่งในเรื่องของเฉดสี นั่นคือ แผ่นแม่มุกขาวกระจ่าง และ นิลกาดำขลับ

 

คู่ผลงานแห่งความเลอค่า

คอลเลกชันได้ใช้ประกายเหลื่อมระยับของ แผ่นแม่มุก หรือ มาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล (mother-of-pearl) ฝังลงบนตัวเรือนทองคำสีกุหลาบละมุนตา ราวกับเป็นบทรจนากวียกย่องความอ่อนช้อยในธรรมชาติ ในขณะที่ นิลกา หรือ ออนิกซ์ (onyx) กับ ทองคำขาว จับคู่ขัดแย้งแห่งเฉดโทนได้อย่างวิจิตรบรรจง เพื่อครองความงามสง่าในทุกยุคสมัย ลูกเล่นทางการจับคู่วัสดุ นำมาซึ่งผลงานสองโทนสี แต่ละชิ้นราวกับมีชีวิตเป็นของตนเอง หาได้ต่างอะไรจากเครื่องรางนำโชคที่สง่างามเฉพาะบุคคล สมเป็นคอลเลคชั่นแห่งความเป็นหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นวงกลีบดอกแสนบอบบางผลิบานอยู่บนเนินคอระหง หรือแกว่งไกวอยู่รอบข้อมือ หรือล้อแสงบนปลายนิ้วไปตามการเคลื่อนไหวของปลายมือ: แหวนหว่างนิ้ว Cosmos Between the Finger Ring คลี่กลีบอย่างงดงาม เพื่อเป็นตัวแทนทุกมวลพลังทางการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของ Van Cleef & Arpels ที่สุดแห่งความละเมียดละไม กลีบดอกเพชรเดี่ยว ราวต้องแสงตะวันทอประกายสุกใส เผยคุณค่าแห่งงานออกแบบสัดส่วนอสมมาตร ในขณะที่ต่างหู ซึ่งมีให้เลือกถึงสองขนาด จรัสประกายสว่างเรืองรองต้องวงหน้า เช่นเดียวกับที่จี้สายสร้อยทอแสงแต่งรัศมีละออผิวระหงคอ

 

วัตถุธรรมชาติอันเต็มเปี่ยมไปด้วยความหมาย

นอกเหนือจากการเป็นแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจสำคัญ ธรรมชาติยังได้มอบทรัพยากรเลอค่าให้แก่เมซง เพื่อสืบทอดธรรมเนียมนิยมแห่งความเป็นเลิศของ Van Cleef & Arpels

  • แม่มุก หรือ “มาเธอร์ ออฟ เพิร์ล” (mother-of-pearl) เป็นหนึ่งในวัสดุยอดนิยมของเมซง ผลงานที่ธรรมชาติบรรจงสร้างสรรค์ขึ้นไว้ภายในเปลือกหอยมุก เคลือบในของเปลือกหอยให้สีขาวน้ำนม ทอแสงเหลือบประกายรุ้งสลับเป็นเงางาม ชวนให้นึกถึงความอ่อนโยนแห่งอิสตรี และสัมผัสทะนุถนอมภายใต้อ้อมกอด ปกป้องของความเป็นแม่ “มาเธอร์-ออฟ-เพิร์ล” ซึ่ง Van Cleef & Arpels นิยมนำมาสร้างสรรค์ผลงาน ได้จากอินโดนีเซียและญี่ปุ่น ด้วยคุณภาพของพื้นผิวที่เรียบเนียน และเนื้อสีที่สม่ำเสมอ ทอประกายวาวเงางามที่สุด
  • นิลกา หรือ “ออนิกซ์” (onyx) ตามเทพปกรณัมโรมัน เล่าว่า วันหนึ่ง เทพอีรอส หรือกามเทพ ใช้ปลายลูกศรของตนลอบตัดเล็บวีนัส เทพีแห่งความรักระหว่างนางหลับใหล เพราะทุกอวัยวะบนเรือนกายศักดิ์สิทธิ์ของบรรดาทเทพล้วนเป็นอมตะ เศษเล็บนั้นจึงกลายเป็นหินศิลา และเป็นต้นกำเนิดของนิลกาดำขลับ สุดยอดปรารถนาของทุกวัฒนธรรมมานับแต่โบราณกาล นิลดำปรากฏในคอลเลคชั่นต่างๆ ของ Van Cleef & Arpels ส่วนใหญ่มาจากบราซิล สืบเนื่องจากคุณสมบัติอันโดดเด่นในแง่ของสีดำล้ำลึก และมอบพื้นผิวซึ่งผ่านกระบวนการขัด ต้องแสงเป็นประกายเงางามวามวาวราวกระจก ออนิกซ์ซึ่งถูกนำมาใช้สำหรับเครื่องประดับ “คอสมอส” จะทำการเลือกจากประกายสว่างเจิดจ้าระดับสูง
  • เพชร (diamond) มีความหมาย “อยู่ยงคงกระพัน ไม่อาจบุบสลาย และ ไม่อาจทำให้แตกหักได้” ซึ่งเหล่านั้นก็น่าจะบ่งบอกถึงคุณสมบัติของหินแร่รัตนชาติชนิดนี้ได้อย่างชัดเจน เพชรเป็นธาตุคาร์บอนรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีความแข็งแกร่ง อัญมณีที่ทนทานที่สุดในโลก ในขณะเดียวกันก็สุกใส ให้การสะท้อนแสงก่อประกายสะกดสายตา เป็นยอดปรารถนาของมนุษยชาติในทุกอารยธรรมมาตลอดทุกกาลประวัติศาสตร์ ไม่ว่าจะในฐานะสัญลักษณ์แห่งวีรบุรุษผู้กล้า หรือเป็นเครื่องรางคุ้มกันภัย ตัวแทนแห่งการผูกมัดชีวิตคู่ หรือการมีอายุยืนยาว รัตนชาติเลอค่าชนิดนี้ มักถูกนำมาใช้เพื่อสื่อถึงการปกป้อง เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ และความเป็นอมตะ เหนืออื่นใด ในเชิงสุนทรียศิลป์ เพชรถูกยกย่องให้เป็นประจักษ์พยานแห่งความรักตราบนิรันดร์ ไม่มีวันเสื่อมสลาย เมซงเลือกเพชรที่มีสีอยู่ในระดับ D, E หรือ F มีความกระจ่างใสในน้ำเพชรระดับ IF, VVSI หรือ VVS2 เพียงเท่านั้น เพราะเพชรคุณภาพมาตรฐานระดับนี้ จึงจะมอบประกายสุกสว่างกระจ่างจรัสล้ำเลิศควรคู่แก่การเป็นผลงานสร้างสรรค์จาก Van Cleef & Arpels อย่างแท้จริง

 

ไหวพริบในการรังสรรค์ความงามจากธรรมชาติ

สู่เครื่องประดับได้อย่างสมจริง

Van Cleef & Arpels ถ่ายทอดความงดงามตามธรรมชาติของมวลพฤกษาที่หาความจีรังมิได้ ให้กลายเป็นผลงานสร้างสรรค์อันคงความล้ำเลอค่าตราบนิรันดร์ ทุกรายละเอียดล้วนสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเมซง ที่จะจำลองทุกลีลาการเคลื่อนไหวได้อย่างสมจริง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นเลิศ ในการใช้ไหวพริบพลิกแพลงทักษะความชำนาญแขนงต่างๆ ด้านงานออกแบบสามมิติร่วมกับลูกเล่นเหลี่ยมมุม ที่ช่วยทวีความสดใส มีชีวิตชีวาให้แก่โมทีฟ โลหะตัวเรือนกลีบดอกต่างขนาด และมีความโดดเด่นไม่เป็นรองกันและกัน แต่ละกลีบตัวเรือนเหล่านี้ ได้รับการจัดตำแหน่งในสัดส่วนอสมมาตรอยู่บนวงดอกของพฤกษาดาราจักร เพื่อรองรับ งานฝังแผ่นแม่มุก และนิลกา อันผ่านการเจียนรูปทรงโค้งมน อ่อนช้อยก่อนนำไปผ่านการขัดผิวด้วยมือทีละชิ้น เพื่ออำนวยต่อการล้อแสงทอประกายเจิดจ้าถึงขีดสุด

แม้แต่ การฝังเพชร ขึ้นตัวเรือนถูกออกแบบมาสำหรับทวีความเข้มแสงในประกายสุกสว่าง ให้แก่ผลงานสร้างสรรค์ชิ้นต่างๆ เพื่อให้ทิ้งตัวกลบพื้นผิวตัวเรือนโลหะได้อย่างหมดจด แนบเนียน แต่ละกลีบจะรองรับเพชรที่ผ่านการเจียระไนให้ได้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางต่างกันถึงแปดระดับ โดยจะนำมาจัดตำแหน่งไล่เรียงไปตามผังลวดลายแบบต่างๆ รัตนชาติเหล่านี้จะอาศัย เทคนิคฝังลูกปัด (beaded setting) ในการขึ้นตัวเรือน ทำให้ได้ผลงานราวกับมีมุกน้ำค้างประดับพราวอยู่บนกลีบโลหะ ความโค้งมน ละมุนละไมของดอกไม้เลอค่าเหล่านี้ มีจุดบรรจบร่วมกันอยู่ตรงกึ่งกลาง โดยใช้ เพชรเดี่ยวน้ำหนัก 0.22 ถึง 0.28 กะรัต ต่างเกสร นอกจากนั้น เครื่องประดับแต่ละชิ้นถูกรองรับด้วยกระเปาะทรงหัวใจ ซึ่งช่วยเติมอารมณ์โรแมนติกให้แก่เครื่องประดับ “คอสมอส” และเพื่อให้สมจริงตามธรรมชาติมากยิ่งขึ้น กระเปาะเหล่านี้ยังประดับกลีบเลี้ยงขนาดจิ๋วรายรอบ เป็นตัวแทนถึงดอกไม้อันเป็นแรงบันดาลใจ ในการออกแบบผลงานสร้างสรรค์เหล่านี้ได้อย่างครบครัน

 

อาณาจักรพฤกษาแห่ง Van Cleef & Arpels

ธรรมชาติคือหนึ่งในแหล่งกำเนิดแรงบันดาลใจสำคัญของ Van Cleef & Arpels ด้วยความประทับใจในทุกสเต็ปของการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องตามธรรมชาติของมวลดอกไม้ที่ไม่อาจยืนยง เมซงได้ถ่ายทอดความงดงามเหล่านั้นสู่รูปทรง และสีสันที่หลากหลาย สมจริง ไม่ว่าจะเป็นกลีบบางเบาของ ดอกฝิ่น, หรือความตระการตายาม ซากุระ ผลิบานเต็มต้น, ช่อดอกลิลลี่-ออฟ-เธอะ-วัลเลย์ ซึ่งถูกนำมาจัดสลับแซมกับดอกไม้สายป่าพันธุ์ต่างๆ, ใบโคลเวอร์ สี่แฉกหลอมรวมเข้ากับวงกลีบ ดอกดาวกระจาย จนกลายเป็น ดอกคอสมอส หรือ พฤกษาดาราจักร ความกลมกลืนระหว่างธรรมชาติกับสัญลักษณ์นำโชค เครื่องประดับสองนัยยะความหมายในหนึ่งเดียว

 

ความสดใส มีชีวิตชีวาของสวนดอกไม้ชวนฝัน สร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบผลงานนับร้อย นับพันไม่สิ้นสุด สู่เครื่องประดับคอลเลคชั่นต่างๆ ของ Van Cleef & Arpels

 

.                                                     

Cosmos in pink gold, motherofpearl and diamonds

(คอสมอส ตัวเรือนทองคำสีกุหลาบกลีบมาเธอร์-ออฟ-เพิร์ลฝังเพชร)

 

 

Cosmos in white gold, onyx and diamonds

(คอสมอส ตัวเรือนทองคำขาวกลีบออนิกซ์ฝังเพชร)

 

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด