TOP

สัมผัสประสบการณ์ใหม่อย่างเหนือระดับ กับ “อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท”

หากเปรียบชีวิตคือการเดินทาง อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท เปรียบดั่งเพื่อนร่วมทางเปี่ยมจิตวิญญาณ อันเต็มไปด้วยชีวิตชีวาและพาเราไปค้นพบเรื่องราวใหม่ ๆ ที่ทำให้ตกหลุมรักได้ทุกคราบนอาณาจักรล้านนาแห่งนี้ ที่หลอมรวมความงดงามทางวัฒนธรรม ความเชื่อ ความศรัทธา ศิลปะ สถาปัตยกรรม และธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวผ่านทุกอณูของรีสอร์ทหรูเหนือระดับที่ติดอันดับโรงแรมดีที่สุดในโลก

สัมผัสแรกผ่านรอยยิ้มและคำทักทาย อันเป็นเสน่ห์ในแบบฉบับของชาวเมืองเชียงใหม่ พร้อมเครื่องดื่มสุดยูนีค หลัวหิงไฟพระเจ้า (Pray for Fireside) เสิร์ฟมาในขันเงิน ชาดอกจำปาที่คัดสรรดอกไม้หอมมงคลปรุงรสไซรับจากไม้มะโจ๊กตามฤดูกาลผสานน้ำมะขามเปียก ให้รสชาหวานบาง ๆ รับประทานคู่กับมะขามคำเล็กเครื่องเคียงรสเปรี้ยวนำ รังสรรค์ขึ้นเฉพาะซีซั่นหน้าหนาวเท่านั้น เป็นดั่งประตูบานแรกที่พาเราย้อนกลับไปสู่เรื่องเล่าประเพณีดั้งเดิมของชาวล้านนาที่ผูกพันกับวัดและงานบุญ ยามย่างเข้าสู่เหมันตฤดู จะนำไม้เนื้อขาวกลิ่นหอมหาได้ในท้องถิ่น อย่าง ไม้มะโจ๊ก หรือไม้มะขาม มาทำฟืนผิงไฟให้ความอบอุ่นแก่องค์พระพุทธรูปถวายเป็นพุทธบูชาแด่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อคลายความหนาวเหน็บให้กับพระภิกษุสงฆ์ สามเณร สืบทอดกันมาจนถึงปัจจุบัน แรงบันดาลใจที่ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท นำมาต่อยอดเป็นซิกเนเจอร์เวลคัมดริงก์ต้อนรับแขกของรีสอร์ท สืบสานเรื่องราวอย่างสร้างสรรค์

รีสอร์ทที่เหนือกาลเวลาผ่านคืนวัน มอบบริการอันน่าประทับใจ ต้อนรับผู้มาเยือนในฐานะเจ้าบ้านมากว่าทศวรรษ ครั้งนี้มีหลายส่วนที่ปรับโฉมให้ตื่นตาตื่นใจและร่วมสมัย เปิดประสบการณ์ใหม่ในทุกโสตสัมผัส ไม่ว่าจะเป็นห้องพัก อาหาร รูฟท็อปบาร์ และกิจกรรมอันแสนผ่อนคลาย ไปพร้อมการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ ประกาศความพร้อมการเป็นจุดหมายแห่งการพักผ่อนที่ดีที่สุดในทุกด้าน อีกทั้งยังเป็นแลนด์มาร์กสำคัญอันโดดเด่น ในทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองเชียงใหม่ สามารถเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวย่านต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกง่ายดายในเวลาไม่กี่นาที ไม่ว่าจะเดินทางไปยังไนท์บาซาร์ยามค่ำคืน หรือย่านชอปปิงขึ้นชื่อ และใช้เวลาราว 15 นาทีเท่านั้น จากสนามบินนานาชาติเชียงใหม่

แม้สถานที่ตั้งของรีสอร์ทจะอยู่กลางเมืองเชียงใหม่ แต่เมื่อก้าวเข้าสู่ภายในกลับเป็นดินแดนอันเงียบสงบเต็มไปด้วยพื้นที่สีเขียว ส่วนล็อบบี้ของโรงแรมเป็นดั่งหน้าบ้านต้อนรับแขกผู้มาเยือน ออกแบบให้เป็นที่นั่งพักผ่อนก่อนออกสำรวจรีสอร์ท หรือจะนั่งชิลเอนกายเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสบาย ๆ ระหว่างวัน จิบเครื่องดื่มกับอาหารว่างเบา ๆ ที่รังสรรค์ขึ้นเฉพาะ ณ เดอะ ล็อบบี้ เลาจน์ (The Lobby Lounge) 

ภายใต้อาคารโปร่งโล่งได้รับการออกแบบเน้นแนวเส้นฉากในสไตล์ Modern Tropical สอดรับกันในทุกองศา มินิมอลดีไซน์ผสมผสานเอกลักษณ์ของพื้นที่แบบเขตร้อนชื้น สื่อผ่านวัสดุไม้สัก หิน อิฐ เปลือยพื้นผิวสัมผัสแนบชิดธรรมชาติ อันเป็นนิยามการออกแบบที่เข้าลึกถึงจิตวิญญาณได้อย่างกลมกลืน ฝีมือ เคอรี่ ฮิลล์ อาร์คิเทคส์ (Kerry Hill Architects) ที่เคยฝากผลงานการออกแบบโรงแรมชื่อดังระดับประเทศและระดับโลกมาแล้วมากมาย

โดยอาคารห้องพักของรีสอร์ทเป็นอาคาร 4 ชั้น รูปตัวแอล หันหน้าสู่แม่น้ำปิง โอบล้อมสนามหญ้าเขียวขจีขับให้ ต้นพยอมอายุ 300 ปี สูงตระหง่านโดดเด่นยามทอดสายตาชมวิวทิวทัศน์จากระเบียงห้องพัก ทุกห้องได้รับการปรับโฉมให้มีชีวิตชีวามากขึ้น ถูกออกแบบเรียบหรูสวยงาม ด้วยพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง บานพับไม้แบบเปิดโล่งได้ มองทะลุจากส่วนของเตียงนอนยังพื้นที่ส่วนห้องน้ำ ยิ่งทำให้ความรู้สึกโปร่งสบายด้วยกระจกบานใสแบบเต็มตัว พร้อมแนวระแนงไม้ที่เล่นมิติแสงเงาธรรมชาติในทุกช่วงเวลา และสามารถเก็บเสียงรบกวนจากภายนอกได้อย่างยอดเยี่ยม เฟอร์นิเจอร์ไม้และหวายตลอดจนของตกแต่งในโทนสีธรรมชาติเสริมสร้างความรู้สึกอันอบอุ่น

อีกทั้งยังเป็นรีสอร์ทที่ได้รับมาตราฐาน SHA Plus+ และคำนึงถึงสุขอนามัยของผู้เข้าพักเป็นสำคัญ ทุกห้องพักเสริมด้วยเครื่องกรองอากาศ ที่สามารถกรองเชื้อโรครับอากาศปลอดโปร่งบริสุทธิ์ ช่วยให้ทุกการพักผ่อนบนที่นอนนุ่มหลับสบายและผ่อนคลายอย่างที่สุด ในทุกห้องพักที่รวมทั้งหมด 84 ห้อง แบ่งเป็นห้องพัก 4 แบบ ประกอบด้วย ห้องดีลักซ์, ห้องดีลักซ์ริเวอร์วิว, ห้องกษรา สวีท และ ห้องกษราริเวอร์วิวสวีท

ในส่วนของห้องพักฝั่ง “อนันตรา เชียงใหม่ เซอร์วิส สวีทส์” เชื่อมต่อกับฝั่งรีสอร์ทเพียงเดินข้ามฟากด้วยทางเดินเฉพาะของทางรีสอร์ท ให้บริการแบบเรสซิเดนท์รองรับนักเดินทางแบบครอบครัว ที่มองหาที่พักอาศัยแบบระยะยาวและมีความเป็นส่วนตัวสูง ภายในห้องพักมีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครันแบบบ้าน อาทิ ห้องครัว ตู้เย็น เครื่องซักผ้า และบริการสระว่ายน้ำชั้นดาดฟ้าชมวิวเมืองเชียงใหม่จากมุมสูง และยังสามารถใช้บริการทุกอย่างทางฝั่งรีสอร์ทได้ด้วยเช่นกัน

บนพื้นที่อันเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของรีสอร์ท แต่เดิมเคยเป็นที่ตั้งของ สถานกงสุลอังกฤษประจำจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางผ่านกาลเวลามากว่าศตวรรษ นับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2464 อาคารโคโลเนียลหลังนี้ ยังคงได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างสมบูรณ์ยอดเยี่ยมถึง 101 ปี ชวนให้นักพักผ่อนได้ย้อนเวลากลับไปเรียนรู้อดีตในยุคหลังสงครามโลก อาคารเก่าแก่อันทรงคุณค่ายังเคยเป็น Safe Learning ที่เรียนหนังสือของลูกหลานคนพื้นเมืองเจริญประเทศ ช้างม่อย ช้างคลาน เพื่อหาความรู้จากห้องสมุดอีกด้วย รอบ ๆ บริเวณที่เป็นสนามหญ้าตามคำบอกเล่าของ คุณชิน พิทักษ์ นรเทพกิตติ ผู้จัดการทั่วไป เคยเป็นสนามซ้อมคริกเกต กีฬาที่ได้รับความนิยมของชาวอังกฤษในยุคสมัยนั้น ภายใต้บรรยากาศอันร่มรื่นเงียบสงบ แวดล้อมด้วยต้นไม้ใหญ่ที่กระจายทั่วทั้งพื้นที่ คงต้องมีอายุเฉลี่ยราวร้อยปีขึ้นไป เรียกว่าทุกอณูของพื้นที่แห่งนี้มีเรื่องราวเรื่องเล่ามากมาย ตอบโจทย์สำหรับนักเดินทางที่โหยหาอดีต หันหลังให้กับความศิวิไลซ์ชั่วครู่ แล้วเปิดประตูสู่ความสโลว์ไลฟ์ พักผ่อนชาร์จพลังกันอย่างเต็มที่ ถือเป็นรีวอร์ดชีวิตที่ได้รับจากธรรมชาติ ณ ที่รีสอร์ทแห่งนี้ 

อาคารโคโลเนียลที่มีประวัติยาวนาน เป็นสัญลักษณ์ของ อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท ที่ได้รับการตกแต่งให้เป็นแลนด์มาร์กของห้องอาหารและบาร์ชั้นเลิศ เดอะ เซอร์วิส 1921 เรสเตอรองต์ แอนด์ บาร์ (The Service 1921 Restaurant & Bar) การันตีความอร่อยด้วยรางวัลบิบ กูร์มองด์ จากมิชลินไกด์ ปี 2019 – 2020 จากแนวอาหารไทยและจีนเซชวนที่ผ่านมา ปัจจุบันได้ปรับเมนูใหม่ให้เป็นอาหารแนว Western Cuisine สเต็กเฮาส์กลิ่นอายล้านนา โดยเชฟ David Eldridge ได้คัดสรรค์เนื้อคุณภาพระดับพรีเมี่ยม รวมถึงใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น รังสรรค์เป็นเมนูหลากหลายในสไตล์ตะวันตก พร้อมด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยและของหวานเลิศรส อาทิ Oysters, Wild Halibut Fillet, Seared Hokkaido Scallops, Our Eton Mess เสริ์ฟพร้อมไวน์ที่แนะนำโดยไวน์กูรู

ในบรรยากาศย้อนยุคเปี่ยมเสน่ห์แบบ East meet West ภายใต้สถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล นำเอารูปแบบของหน่วยสืบราชการลับกลับมาทำใหม่ บนชั้นสองของอาคาร สอดแทรกแนวคิดและการตกแต่งให้แต่ละห้องเป็นเสมือนพื้นที่กิจกรรมสำหรับสายลับ ประกอบด้วย ห้องสืบสวนสอบสวน (Secret Agent Room) ตกแต่งโซ่ตรวน เสื้อผ้า ข้าวของเครื่องใช้ และรูปภาพของเจ้าหน้าที่ศูนย์ประสานงานกงสุลสมัยนั้น, ห้องสมุด (Library Room) ที่เปิดประตูลับหลังชั้นหนังสือเข้าสู่ห้องรับประทานอาหารที่ซ่อนตัวอยู่ภายใน ห้องลับ (Secret Room) เต็มไปด้วยเรื่องราวและความซ่อนเร้นของภูมิศาสตร์การเมืองในยุคล่าอาณานิคม เป็นเสน่ห์ที่น่าค้นหา

ส่วนชั้นล่างของอาคารให้บริการ บริท บาร์ (Brit Bar) บาร์สไตล์สายลับอังกฤษในยุคอดีต หรูหราในโทนสีน้ำเงินทอง คลุมโทนในธีมเดียวกับห้องอาหาร เดอะ เซอร์วิส 1921 ตกแต่งด้วยรูปภาพโบราณ มีทั้งโซฟาหนังนั่งสบายไปจนถึงเคาร์เตอร์บาร์ สำหรับผู้ที่ต้องการสังสรรค์เป็นพื้นที่ที่มอบความสุขสนุกสนานผ่อนคลาย ออกสเต็ปลีลาแดนซ์เบา ๆ ไปกับจังหวะเพลงเร้าใจ ให้ความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นกับห้องส่วนต่อขยาย ที่นั่งชิลพูดคุยได้ ไปพร้อมลิ้มรสชาติซิงเกิลมอลต์ ค็อกเทลสูตรพิเศษ หรือไวน์ชั้นเลิศในห้องเก็บไวน์ส่วนตัว และเพลิดเพลินกับสุดยอดซิการ์คิวบาที่มีให้เลือกหลายแบบ

ถัดจาก บริท บาร์ รอบตัวอาคารโคโลเนียล ออกแบบให้เป็นที่นั่งสบาย ๆ เปิดรับวิวสวนสวยเขียวสดชื่น ช่วงบ่ายของวันมีบริการ ชุดน้ำชายามบ่าย (Afternoon Tea) ลิ้มรสพายกูร์เมต์และคีชที่แสนอร่อย เพลิดเพลินไปกับขนมหวานที่ตกแต่งอย่างสวยงาม และสคอนผลไม้รับประทานคู่กับครีมคลอตเต็ด พร้อมกับเลือกจิบเครื่องดื่มร้อน ๆ ไม่ว่าจะเป็นชาจากใบชาระดับพรีเมียมของ TWG และ Monsoon tea ที่มีให้เลือกมากมาย และกาแฟบดสด ๆ เพิ่มความสดชื่นให้กับช่วงเวลายามบ่ายสุดพิเศษของคุณ

การเปิดตัวครั้งนี้ ยังสร้างสรรค์พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น ด้วย ทางเดิน Sky Walk เชื่อมพื้นที่ชั้น 2 ของอาคารโคโลเนียลจาก “ห้องอาหารเดอะเซอร์วิส 1921” สู่ชั้นดาดฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างสระว่ายน้ำกับทางเดินไปจนสุดริมแม่น้ำปิง ให้เป็นจุดชมวิวแบบ 360 องศาจากมุมสูง ที่สุดปลายทางเดินสามารถเนรมิตให้เป็น secret Table ไพรเวทดินเนอร์สุดโรแมนติกพร้อมไลฟ์มิวสิกสำหรับคู่รัก หรือกลุ่มเพื่อนสนิทในบรรยากาศริมแม่น้ำปิง พร้อมเสิร์ฟประสบการณ์ภายใต้บริการ Dining by Design ที่ไหน แบบไหนก็ได้ที่ตรงใจคุณ

หรือจะเปลี่ยนบรรยากาศผ่อนคลายแบบอัลเฟรสโก (Outdoor Alfresco) บนพื้นที่ชั้นดาดฟ้าสร้างสรรค์ให้เป็นรูฟท็อปบาร์แชมเปญที่มีชื่อว่า Bubbles Rooftop Bar หมุดหมายแฮงเอาท์ใหม่ล่าสุดของเมืองเชียงใหม่ ให้นั่งละเลียดฟองแชมเปญก่อนมื้ออาหารเย็น พร้อมชมวิวพาโนราม่าของสระว่ายน้ำที่วางตัวคู่ขนานไปกับแม่น้ำปิง ทิ้งตัวบนโซฟาชมมิติของท้องฟ้ายามเย็น นับเป็นจุดชมวิวท้องฟ้าสายน้ำที่สวยที่สุดของรีสอร์ทเลยก็ว่าได้ ให้เพลิดเพลินปล่อยใจไปกับเสียงดนตรีใต้แสงเดือนแสงดาวแห่งค่ำคืนพิเศษ

ลองเมนูเครื่องดื่มซิกเนเจอร์คอนเซ็ปต์อัญมณี ที่คัดสรรมานำเสนอกันสัก 3 เมนู อาทิ Pink Tourmaline อัญมณีสีชมพูหวานจากดอกดาหลาอินฟิวกับจิน เพิ่มโทนิกอีกนิดเพื่อความซาบซ่า หรือจะเป็น Diamond Tiara สก็อตวิสกี้ผสมกับ white turmeric และ Lamon drops เคี่ยวเลม่อนกับน้ำตาลจนมีความใสแบบคริสตัล แล้วเชคให้เข้ากัน เสิร์ฟพร้อมขมิ้นขาวเพิ่มกลิ่นหอมและความกลมกล่อม ได้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์, Mea-Kha-Nhing แม่คะนิ้งอินสไปร์จากฤดูกาลแห่งความหนาวของเมืองเชียงใหม่ด้วยเฉดสีฟ้าสดใส เพิ่มเลเยอร์ริ้วเมฆจากคอตตอนแคนดี้ เสิร์ฟความซาบซ่าด้วยโปรเซคโก้ (Prosecco) ทอปด้วยลิขวิดไนโตรเจนมอบความตื่นใจของควันพวยพุ่ง ให้รสสัมผัสที่หวานสดชื่นจากเท็กเจอร์เกล็ดน้ำแข็ง นอกจากแชมเปญแล้วยังมีเครื่องดื่มคอกเทลหลากเมนูให้ลิ้มลองอีกด้วย 

อีกห้องอาหารมื้อสำคัญเริ่มต้นวันกันที่ โพธิ์ เทอเรซ (Bodhi Terrace) ให้บริการอาหารตลอดวัน ทั้งมื้อเช้า กลางวัน เย็น เสิร์ฟอาหารใต้เมืองเหนือที่เป็นเสน่ห์ของห้องอาหารนี้ สำหรับเมนูไฮไลท์ไม่ควรพลาด อย่าง Lanna Omelette, Lanna Plate, Avocado Toast เมนูของหวาน อาทิ Pancakes, French Toast ณ บริเวณด้านหลังของอาคารกงสุลอังกฤษเก่า มีการขยายพื้นที่ส่วนของที่นั่งรับประทานอาหารทั้งภายในอาคารและภายนอกให้กว้างขวาง รองรับจำนวนที่นั่งได้มากขึ้น เพื่อชื่นชมธรรมชาติเปิดรับวิวแม่น้ำปิงในบรรยากาศสุดชิล ร่มรื่นใต้ต้นโพธิ์ที่มีอายุถึง 200 ปี

นอกจากนี้อีกบริการเพื่อสุขภาพขึ้นชื่อนั่นคือ อนันตรา สปา มอบประสบการณ์สปาในเชียงใหม่อันน่าจดจำ ตกแต่งอย่างเรียบหรูในสไตล์ร่วมสมัย ท่ามกลางบรรยากาศแสนผ่อนคลาย พร้อมทรีตเมนต์มากมายให้เลือกสรร เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนรักสุขภาพ มอบการบำบัดแบบองค์รวม มาพร้อมบริการใหม่ในส่วนของคลีนิคแพทย์แผนไทย อย่าง นวดกดจุด, การฝังเข็ม และ IV Drip Bar ที่มีโปรแกรมดริปวิตามินเพื่อสุขภาพและความงาม สามารถบูสต์สุขภาพได้ในระยะเวลาอันสั้น รวมถึงทรีตเมนต์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากพิธีกรรมแบบล้านนา สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ อย่าง ย่ำขาง ผสมผสานความเชื่อของคนสมัยโบราณ นำผาลไถนาที่ทำจากขาง โลหะเหล็กมากแร่ธาตุใช้ทำการรักษาโรคในอดีตจนถึงปัจจุบัน นำมาผสมผสานศาสตร์แห่งการบำบัดควบคู่การใช้สมุนไพรไทย อย่าง น้ำมันไพล ทำให้อุ่นแล้วลงเหยียบด้วยฝ่าเท้านวดไปบนร่างกายส่วนหลังและน่อง ที่น่าลองมาก ๆ

และสำหรับผู้ที่ตึงคอ บ่า ไหล่ ต้องลองทรีตเมนต์ “นวดผ้าขาวม้า” จะช่วยยืดเหยียดเส้นและคลายกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ด้วยการนวดน้ำมันผสานการ “ตอกเส้น” กระตุ้นตามแนวกระดูกเพื่อคลายอาการปวดเมื่อย และปิดท้ายด้วย Singing Bowl คลื่นเสียงบำบัด เรียกได้ว่าช่วยผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจเลยทีเดียว

ในส่วนบริการและสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ภายในรีสอร์ท อาทิ ฟิตเนส เซ็นเตอร์ (Fitness Centre) ให้บริการอุปกรณ์การออกกำลังกายที่ทันสมัยและมีความหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น เครื่องออกกำลังกายเพื่อระบบไหลเวียนโลหิต (Cardiovascular) หรืออุปกรณ์ยกน้ำหนักประเภทต่าง ๆ และ Flying Yoga Studio รวมถึงบริการ ห้องประชุมสัมนา พร้อมมอบประสบการณ์การพักผ่อนอย่างเหนือระดับ และเพลิดเพลินไปกับกิจกรรมมากมายระหว่างการเข้าพัก ไม่ว่าจะเป็นการออกสำรวจเมืองเก่าอันเต็มไปด้วย วัดวาอาราม มรดกล้านนา หมู่บ้านช่างฝีมือ และชนเผ่าชาวเขา ที่สุดของการผจญภัย การค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ ที่คุณจะได้สัมผัสจากจุดหมายปลายทางแห่งนี้

 

พิกัด: อนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท เลขที่ 123 ถ.เจริญประเทศ ต.ช้างคลาน อ.เมือง จ.เชียงใหม่ 

โทรศัพท์: 053 253 333   

เว็บไซต์: http://chiang-mai.anantara.com/

อีเมล: chiangmai@anantara.com  

Facebook: https://www.facebook.com/AnantaraChiangMai 

Instagram: https://www.instagram.com/anantara_chiangmai 

Tiktok: https://www.tiktok.com/@anantarachiangmai 

เหมือนจันทร์ ศรีสอาด